สวัสดีค่ะหมอ หนูอายุ12ย่าง13ปี มีอาการปวดขมับทั้ง2ข้าง อ่อนเพลีย มีไข้ เส้นเลือดขมับทั้ง2ข้างเต้นตามจังหวะชีพจร แต่ไม่รู้สึกว่ามันเต้นถ้าไม่จับดูค่ะ เส้นเลือดข้างขมับปูดออกมานิดหน่อยเห็นได้ไม่ชัดค่ะ ก่อนหน้าที่จะกินยาและพักผ่อนมีอาการไม่อยากกินอะไรเลยนอกจากน้ำ ง่วง ซึม และจะปวดมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนอริยาบท เช่นเมื่อขึ้นบรรไดแล้วเท้ากระแทกพื้นแรงจะปวดมากขึ้นค่ะ แต่หลังกินยาและพักผ่อนแล้วอาการดีขึ้นค่ะ ปวดหัวน้อยลง แต่ยังมีอาการเส้นเลือดที่ขมับเต้นอยู่ ไม่อยากทานอาหารแต่อยากทานผลไม้ที่ฉ่ำๆน้ำเช่นแตงโมค่ะ ก่อนหน้าที่จะเกิดอาการรู้สึกว่าพักผ่อนน้อยมากค่ะนอน5ทุ่มตื่น6โมง เกี่ยวกันมั้ยคะ แล้วที่ว่ามาคือเสี่ยงเป็นโรคอะไรไหมคะ หรือแค่ไข้ที่เกิดจากอากาศเปลี่ยนแปลง ขอบคุณล่วงหน้าค่ะหมอ

สวัสดีค่ะ อาการไข้เฉียบพลันของเด็ก มีสาเหตุมาได้หลายอย่างค่ะ ได้แก่ 1.การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ปวดตามตัวร่วมดัวย , ไข้เลือดออก อาจมีไข้สูงลอย สังเกตเห็นจุดเลือดออกตามตัว (มีหรือไม่มีก็ได้) ปวดท้อง เบื่ออาหาร , เชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้หวัดธรรมดา ไวรัสที่ทำให้มีท้องเสียถ่ายเหลว (โรตา,อะดีโน) เป็นต้นค่ะ 2. การ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น คออักเสบ หูอักเสบ ต่อมทอลซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น อาการปวดหัว อาจเกิดได้จากหลายอย่างค่ะ เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ก็เป็นได้ค่ะ ซึ่งอาการรู้สึกว่าเส้นเลือดเต้น น่าจะเป็นอาการปวดหัวตุบๆ ซึ่งสาทารถเกิดได้ในโรคเหล่านี้เช่นกันค่ะ ข้อแนะนำ คือ เนื่องจากคนไข้เป็นเด็กโตเข้าวัยรุ่นแล้ว อาการทักไม่รุนแรงเท่าเด็กเล็ก หากขณะนี้ยังสามารถกินได้ ไม่ซึม ค่ะ อาจจะสังเกตอาการได้ 48-72 ชมค่ะ ระหว่างนี้ ควรปฏิบัติดังนี้ค่ะ 1.สามารถให้ทานยาลดไข้ (งดยา aspirin และยาลดไข้สูงทุกชนิด เนื่องจากหากเป้นไข้หวัดใหญ่หรือไข้เลือดออก อาจมีอาการรุนแรงได้ ยกเว้นใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ) หากอาการไม่ดีขึ้นใน 48 ชม หรือ กินไม่ได้ อาเจียน ควรไปพบแพทย์ค่ะ ถ้ามีอาการปวดหัว สามารถทานยาพาราเซตามอลได้ทุก 4 ชมค่ะ 2.ดื่มน้ำมากๆ 3.พักผ่อนให้เพียงพอ**อันนี้สำคัญมากนะคะ โดยเฉพาะช่วงมีไข้ไม่สบาย ค่ะ การพักผ่อนไม่เพียวพอ อาจทำให้ปวดหัว หน้ามืดได้ค่ะ 4.ทานอาหารที่ทีประโยชน์ค่ะ 5.ถ้าปวดศรีษะมาก ตามัว แขนขาอ่อนแรง ไข้สูงมาก อ่อนเพลียมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์นะคะ