July 28, 2019 20:09
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการปวดท้อง คลื่นไส้ และมีหัวใจเต้นเร็วมากขึ้นนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- อาการนำก่อนที่จะมีไข้
- มีการติดเชื้อบางอย่างในร่างกาย
- อาหารเป็นพิษ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับอาการดังกล่าวเบื้องต้น คือมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของการจะเป็นอาหารเป็นพิษได้ครับ ซึ่ง สามารถรักษาได้โดยการกินยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง และจิบน้ำเกลือ แล้วนอนพักครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
โดยปกติหัวใจของคนเราสามารถเต้นได้คั้งต่60-80ครั้งครับ หากหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติบ้างอาจเกิดได้จากการเป็นไข้ การติดเชื้อในร่างกาย ซึ่งในกรณีคนไข้อาจเกิดได้จากลำไส้และกระเพาะอาหารอักเสบครับ
จึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาการติดเชื้อ และหาสาเหตุเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมทั้งยาบรรเทาอาการและยาฆ่าเชื้อต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ อาการปวดท้อง จำเป็นต้องได้รับประวัติเพิ่มเติมค่ะ เช่น ปวดที่ไหน ปวดอย่างไร ปวดตอนไหน ปวดมานานเท่าไหร่ มีอาการร่วมไรบ้างครับ
ตัวอย่าง เช่น
- การติดเชื้อในลำไส้ หรือท้องเสียถ่ายเหลว อาหารเป็นพิษ ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ถ้าติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่ไม่รุนแรงมาก ก็สามารถหายเองได้ครับ
- ไส้ติ่งอักเสบ อาการที่ควรมี เช่น ปวดท้องด้านขวาล่าง มีไข้ อาจมีถ่ายเหลวกระปริบกระปรอย
- โรคกรดไหลย้อน อาการร่วมด้วยที่อาจจะเป็นเช่น ปวดท้อง อาจจะแน่นท้องใต้ลิ้นปี่ หรือ แสบร้อนใต้ลิ้นปี่ เรอบ่อย บางคนเรอแล้วเหมือนมีอาการของอาหารไหลขึ้นมา
- แผลในกระเพาะอาการ/กระเพาะอักเสบ อาจมีอาการปวดบริเวณด้านซ้ายหรือลิ้นปี่บ่อยๆครับ
- นิ่วในถุงน้ำดีหรือทางเดินน้ำดี ซึ่งอาการของนิ่วนี้ จะมี เช่น ปวดท้องเป็นๆหายๆ อิ่มเร็ว มักปวดท้องเวลาทานอาหารเสร็จ
-ติดเชื้อที่ปีกมดลูกหรือรังไข่ อาจจะมีตกขาวหรือปวดท้องน้อยร่วมด้วยครับ
-ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือนิ่วทางเดินปปัสสาวะ มีไข้ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะเป็นเลือด
- ส่วนที่พบได้ไม่บ่อย เช่น เนื้องอกต่างๆที่กระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่อน,ตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น อาการที่ค้องระวังหากมีควรไปพบแพทย์ เช่น อาเจียนเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลืองตาเหลือง กินข้าวอิ่มเร็วกว่าปกติหรือคลื่นไส้อาเจียนมากๆครับ
**สำหรับอาการดังกล่าว เป็นการวินิจฉัยอย่างพอสังเขป การให้การรักษาต้องได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มเติมโดยแพทย์ ดังนั้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่ รพ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องหากอาการไม่ดีขึ้นครับ**
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปวดท้องเหมือนจะอ้วกแต่ไม่อ้วก หัวใจเต้นเร็ว/แรงกว่าปกติ ปกติหัวใจของ้หญิงจะอยู่ที่70-80แต่ของหนูไป98ต่อ1นาทีไม่ไข้แต่มีเจ็บคอ เวลานอนพอจะลุกไปดื่มน้ำจะเวียรหัวและใจจะเต้นเเรงมาก(อายุ13ยังไม่เคยเป็น ปจด.นะคะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)