July 17, 2019 07:16
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ความเครียดอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติทั้งทางจิตใจและร่ายกายได้ เช่น มีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หงุดหงิด ท้อแท้ คิดมาก มองโลกในแง่ร้าย นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวณ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องผูก/เสีย เบื่ออาหาร เป็นต้นค่ะ สำหรับวิธีจัดการความเครียดเบื้องต้นเลยคือลองให้วิเคราะห์ถึงปัญหาสาเหตุของความเครียด และพิจารณาว่าสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ อาจจำเป็นต้องอาศัยขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น และนอกจากหากิจกรรมผ่อนคลายทำแล้ว อาจลองนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจตนเอง ปรับความคิดตนเอง ไม่คาดหวังในสิ่งต่างๆมากเกินไป ให้พยายามคิดว่าทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยตัวมัน ให้เข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และที่สำหรับหาคนรู้ใจหรือเพื่อนคอยรับฟังปัญหา คุยปรึกษา จะพอช่วยได้ค่ะ ในกรณีที่ปฏิบัติตามข้างต้นแล้วยังเกิดอาการเครียดอยู่อาจจำเป็นต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อทำจิตบำบัดหรือทานยาคลายเครียดร่วมด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ความเครียดอาจส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจได้ค่ะ
เบื้องต้นลองทำแบบประเมินความเครียดด้วยตนเอง
โดยสำรวจจากอาการภายใน 1-2 เดือน ว่ามีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน โดยให้คะแนนตามระดับความรุนแรงของอาการดังนี้
ไม่เคยเลย 0 คะแนน
ครั้งคราว 1 คะแนน
บ่อยๆ 2 คะแนน
ประจำ 3 คะแนน
1. นอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องกังวลใจหรือคิดมาก
2. รู้สึกหงุดหงิด รำคาญใจ
3. ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะประสาทตึงเครียด
4. รู้สึกวุ่นวายใจ
5. ไม่อยากพบปะผู้คน
6. ไม่มีความสุข รู้สึกเศร้าหมอง
7. ปวดหัวข้างเดียวหรือปวดขมับ 2 ข้าง
8. รู้สึกหมดหวังในชีวิต
9. รู้สึกว่าชีวิตตนเองไร้คุณค่า
10. กระวนกระวายตลอดเวลา
11. ขาดสมาธิ
12. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงที่จะทำอะไร
13. เหนื่อยหน่ายไม่อยากทำอะไร
14. ใจเต้นแรง
15. เสียงสั่น ปากสั่น มือสั่นเมื่อรู้สึกไม่พอใจ
16. กลัวผิดพลาดในการทำสิ่งต่างๆ
17. ปวดเกร็งบริเวณท้ายทอย หลัง ไหล่
18. ตื่นเต้นง่ายกับเหตุการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
19. มึนงง วิงเวียนศีรษะ
20. ความสุขทางเพศลดลง ขาดความใส่ใจในการดูแลตัวเอง
หากรวมคะแนนได้มากกว่า 17 คะแนน หมายความว่ามีความเครียดในระดับที่สูงกว่าปกติ ควรหาเวลาผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อนหย่อนใจ การหาที่ปรึกษาพูดคุยะบายความรู้สึกออกมา
แต่หากลองปรับแล้วอาการไม่ดีขึ้น และมีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ง่าย ซึ่งควรต้องพบจิตแพทย์ ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไปนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือว่าสิ่งที่คุณได้เล่ามาก็ค่อนข้างที่จะเกิดขึ้นได้ในเรื่องของความเครียดที่มีผลต่อความอยากอาหารที่ทำให้รู้สึกทานข้าวไม่ลง การเลิกรากับคนรักเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นตัวทำให้คนเรารู้สึกเศร้าหรือรู้สึกเครียดสะสมได้ครับถึงแม้ว่าเราจะพยายามบอกตัวเองว่าให้ก้าวต่อไปข้างหน้าก็ตาม
วิธีการหนึ่งที่อาจจะช่วยในเรื่องนี้ได้ก็คือการลดความเครียดลงโดยวิธีการบอกเล่าความรู้สึกตนเองออกมาให้กับคนที่เราไว้ใจได้ฟัง หรือแม้กระทั่งเขียนลงไปในสมุดหรือในสถานที่ที่เราสบายใจที่จะเขียนความรู้สึกของตนเองออกไป ไม่ต้องพยายามทำให้ชีวิตมีความสุขครับ ถ้าหากว่ามีซัก วันหรือว่าสองวันที่เรารู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดีจริงๆ ก็ให้ปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นเข้ามาได้บ้าง เพราะการพยายามฝืนบางครั้งมันก็ทำให้เกิดการตึงเครียดและอารมณ์ที่มีอยู่ภายในก็ไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้องด้วยครับ
ลองหาอาหารที่เคยทานแล้วชอบ อาจจะเริ่มจากการดื่มน้ำ หรือว่าทานอาหารที่ย่อยง่ายๆก่อนดูก็ได้ครับ ให้ท้องไม่รับภาระหนักเกินไป นอกจากนั้น ารหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้น โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือสนุกผ่อนคลาย และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตีงเครียดลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งในไม่กี่สัปดาห์อาการเหล่านี้ก็น่าจะดีขึ้นครับ
แต่หากว่าอาการอยากอาหารยังไม่ดีขึ้นใน 1-2 อาทิตย์ก็แนะนำว่าให้เข้าพบแพทย์จะดีกว่านะครับเพื่อรับการประเมินและการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปครับ หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีค่ะหมอ ข่วงนี้หนูว่าหนูมีอาการเครียดค่ะ คาดว่าจะเป็นอาการที่เครียดสะสมมานาน จนปัจจุบันค่ะ หนูเลิกกับแฟน หนูก็พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุข เเต่ว่าหนูมีอาการ คลื่นใส้ค่ะ กินข้าวไม่ได้มากเพราะกินแล้วก็คลื่นใส้กลืนไม่ลง น่าจะเป็นอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆที่หิวนะคะ เเต่พอเห็นแล้วก็กินไม่ลง มีวิธีรักษาหรือคำแนะนำอะไรให้หนูบ้างมั้ยคะ รบกวนหน่อยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)