หนูอายุ 17 ค่ะ คือหนูไปมีอะไรกับแฟนมาพอกลับมาบ้าน หนูมีเลือดออกคล้าย ปจด. หนูก็ไม่คิดอะไรนึกว่าจะหายในวันนั้น แต่ผ่านมาสองวันยังมีเลือดออกอยู่แต่ไม่เยอะ เหมือน ปจด.ตอนไกล้หายค่ะ แล้วก็ไปมีอะไรกับแฟนอีก พอวันถัดมาก็ไม่มีแล้วค่ะ แต่ทุกครั้งที่มีอะไรกันไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยเลย เสี่ยงใบ่ไหมค่ะ

สวัสดีค่ะ อาการเลือดออกระหว่าง หรือ หลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้อยู่ในระหว่างการมีประจำเดือนของผู้หญิง เป็นอาการที่ไม่ปกติ และจะต้องหาสาเหตุค่ะ ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้ค่ะ
1.บาดแผลที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจจะท่าท่า ความรุนแรง หรือช่วงที่ทำช่องคลอดแห้ง ก็อาจจะมีเลือดออกได้ เลือดที่ออก อาจจะเล็กน้อย เช่น บาดแผลภายนอก หรือถ้ารุนแรงไปจนถึงช่องคลอดหรือป่กมดลูกฉีกขาด ก็อาจจะมีเลือดออกได้มาก
2.การ ติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีเลือดออก และตกขาวที่ผิดปกติได้ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เป็นต้น คนไข้อาจจะมีเลือดออก ร่วมกับมีตกขาวสีผิดปกติ เช่นทสีเขียว สีเหลือง หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการแสบ คันช่องคลอด บางคน อาจมีปวดท้องน้อยหรือมีไข้ร่วมด้วย
3. ติ่งเนื้อในช่องคลอด / ปากมดลูก ( polyp) เมื่อโดนกระทบกระแทก อาจมีเลือดออกได้ง่าย
4. เนื้องอก ทั้งเนื้องอกที่เป็นมะเร็วและไม่เป็นมะเร็งในช่องคลอด หรือ ปากมดลูก
5. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้มีเลือกออกขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ บางคนอาจมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าปกติด้วยค่ะ
6. ช่องคลอดแห้ง / ช่องคลอดอักเสบ อาจเกิดจาก ความไม่พร้อม/น้ำหล่อลื่นน้อย หรือ ขาดฮอร์โมนเพศ เช่น หลังผ่าตัดรังไข่ ผู้หญิงอายุมาก เป็นต้น
ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่อาจพบได้ค่ะ ซึ่งต้องใช้การตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจจะต้องมีการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ จึงแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ รพ นะคะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เลือดที่ไม่หยุดไหล อย่างอาการของคนไข้ค่ะ

**ข้อแนะนำเพิ่มเติม คือ หากยังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ หรือ ไม่ทราบความเสี่ยงของโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ของคู่นอน แนะนำว่าให้ใช้ถุงยางอนามัยนะคะ

การมีเลือดออกทางช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์มีสาเหตุมาได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- มีเพศสัมพันธ์ในขณะที่มีประจำเดือน
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะที่ปกติในผู้หญิงบางคนแต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้บ่อย
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรือปากมดลูก
- มีเนื้องอกมดลูก
- มีติ่งเนื้อหรือเนื้องอกที่ปากมดลูก
เป็นต้น
ถ้ามีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆหรือเลือดออกมากหยุดยากก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยมีความเสี่ยงอยู่ 2 อย่างครับ ได้แก่
- การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- การตั้งครรภ์(ในกรณีที่ไม่ได้มีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น)

การที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนถือเป็นความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ครับ

ในปัจจุบันแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไปหรือเริ่มที่ 3 ปีหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และตรวจอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีครับ เพื่อที่จะได้ตรวจพบโรคและให้การรักษาได้ตั้งแต่ในระยะแรก ในกรณีที่เป็นมะเร็งปากมดลูก