August 06, 2018 09:21
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ผื่นผิวหนัง Pruritic papular eruption หรือ PPE เกิดขึ้นเนื่องจากภูมิต้านทานบกพร่อง แต่เมื่อรับประทานยาต้านและปริมาณ CD4 เพิ่มขึ้นแล้ว ผื่นก็จะเริ่มหายไป ในระหว่างที่ยังมีผื่นอาจจะให้การรักษาด้วยยาทาชนิดสเตียรอยด์ แต่ถ้ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ติดเชื้อแบคทีเรีย ก็ต้องได้รับยาปฏิชีวนะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ไม่ครับผมอยากทราบคนที่ติดเชื้อเอสด์ถ้าไม่ได้กินยารึว่ากินยาจะมีตุ่มหรือป่าวหรือว่าผิวหนังเหมือนคนปกติทั่วไป
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ตุ่มหรือผื่นทีเ่กิดจากเชื้อ HIV สามารถหายได้ครับ เมื่อภูมิต้านทานสูงขึ้น และระมัดระวัง ดูแลรักษาความสะอาดตุ่มที่ขึ้นด้วยครับ เพราะอาจจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียทีผ่ิวหนังได้ง่ายขึ้น ถ้าหากเราไปแคะ แกะ เกาหรือสกปรกบ่อยๆ และควรรับประทานยาต้านไวรัส HIV ดังกล่าวอยู่เป็นประจำครับ เนื่องจากปัจจุบัน ยาต้านไวรัสดังกล่าวค่อนข้างมีประสิทธิภาพมาก เมื่อเทียบกับสมัยก่อน ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตได้ตามปกติหรืออายุได้เท่าคนปกติ บางคนอาจจะไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยได้เช่นกันครับ
ส่วนคนที่รับประทานยาต้านหรือไม่ได้รับประทานยาต้านไวรัส อาจมีหรือไม่มีตุ่มขึ้นก้ได้ครับ ขึ้นกับการดูแลรักษาของผู้ป่วย และภูมิต้านทานผู้ป่วยครับ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ดังนัน้เราไม่สามารถตัดสินใครได้จากรูปลักษณ์ภายนอก ว่าคนไหนเป็นผู้ป่วย HIV ครับ นอกจากจะมีผลเลือดมายืนยันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
แล้วถ้าเรามีเพศสัมพันธุ์กับคนที่ใช้ยาต้านhiv
เราจะเสี่ยงติดมั้ยครับ
แล้วอีก1คำถามผมอยากทราบว่ามีเพศสัมพันธุ์แบบไม่ป้องกันแปปเดียวมีผลเสี่ยงมั้ยครับ
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยาต้านไวรัสอยู่ มักจะต้องรับประทานไปตลอดชีวิตครับ
ดังนั้นเมื่อกำลังรับประทานยาต้านไวรัสอยู่ ย่อมมีเชื้ออยู่ในร่างกายครับ จะมากจะน้อยนั้นบอกไม่ได้
เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อแล้ว ถ้าหากไม่ได้มีการสวมถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสที่จะได้รับเชื้อก็จะสูงขึ้นครับ
จะแปปเดียวหรือจะนาน ก็เสี่ยงหมดครับ ขึ้นกับหลายๆปัจจัยอย่างที่ได้กล่าวไปครับ เช่น การดูแลตัวเองของผู้ติดเชื้อ จำนวนเชืื้อในร่างกาย การสวมถุงยางอนามัย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่นอนของตนเอง และกลัวว่าจะติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มา ไม่ว่าจะเป็นเชื้อ HIV เริม หนองใน ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ แนะนำว่าควรสวมถุงยางอนามัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้าเกิดว่าเขาไม่มีตุ่มแต่เหมือนผ่านมาหลายคนเเสดงว่าเขาเสี่ยงติดเชื้อhivไหมครับ
แล้วอาการเริ่มแรกของคนเสี่ยงเป็นอย่างไรครับ
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
การมีคู่นอนหลายคน ถือเป็นปัจจัย"เสี่ยง"ที่จะได้รับเชื้อ HIV มาครับ
แต่ไม่ได้บอกว่าเค้ามีเชื้อ HIV อยู่หรือไม่
ต้องแยกให้ดีก่อนนะครับ คำว่า เสี่ยง กับ มีเชื้อ HIV คนละความหมายกัน
ส่วนอาการของผู้ติดเชื้อในระยะแรกส่วนใหญ่มักจะมีอาการคล้ายไข้หวัดได้ เช่น มีไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ต่อมน้ำเหลืองโต หลังจากนั้นอาการก็จะหายไป เมื่อระยะเวลาผ่านไปภูมิต้านทานต่ำมากๆ และไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยก็จะแสดงอาการออกมาครับ
ดังนั้นอาการของผู้ติดเชื้อ HIV หลากหลายครับ ไม่มีอาการเฉพาะเจาะจง ไม่สามารถรู้ได้เลยครับว่าใครเป็นหรือไม่เป็น จนกว่าจะมีใบตรวจเลือดมายืนยัน
ถ้าหากกังวล อย่างที่แนะนำไปคือ ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง และไปตรวจเลือดหลังจากที่ได้รับความเสี่ยงมา ตั้งแต่ 1 lัปดาห์ขึ้นไปครับ ซึ่งการตรวจจะมีหลายวิธ๊ครับ เช่น NAT หรือ Anti-HIV เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
หากมีคู่นอนหลายคน ก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้ค่ะ เนื่องจากสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถึงแม้จะมีเชื้อไวรัสอยู่ แต่ในระยะเริ่มแรกผู้ป่วยมักจะไม่แสดงอาการอะไร ดูทั่วๆ ไปเหมือนคนปกติ ยกเว้นแต่ว่าเจาะเลือดตรวจจึงจะทราบ กว่าจะแสดงอาการระดับภูมิคุ้มกัน หรือ CD4 ก็ต่ำมากแล้ว เช่น ติดเชื้อฉวยโอกาส หรือดูอ่อนเพลีย ไม่สบายมีไข้บ่อย ๆ ค่ะ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ งดมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่แน่ใจ หรือควรสวมถุงยางอนามัยตลอดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีว่าได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนที่พึ่งรู้จักดูแล้วสะอาดไม่มีตุ่มไม่ผอมแห้งแล้วตอนมีเพศสัมพันธุ์ใส่ถุงยางแต่ว่าหลังจากนั้นก็ถอดออกเเต่ว่าถอดได้ไม่นานก็ง่วงนอนยังไม่เสร็จเลยอยากทราบว่ามีโอกาสเสี่ยงมั้ยคนับ
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยการสวมถุงยางอนามัย ก็จะช่วยป้องกันได้ครับ ถ้าถุงยางนั้นไม่แตกไม่รั่ว
แต่ถ้าถอดถุงยางแล้ว แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ต่ออีก ถึงแม้จะแค่แปปเดียว ก็ถือว่าเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อครับ
และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ เราไม่สามารถประเมินจากรูปลักษณ์ภายนอกได้ครับ ว่าคนนั้นมีเชื้อ HIV หรือไม่
หลายๆคนที่มีเชื้ออยู่ สามารถมีอาการปกติเหมือนคนทั่วไปเลยครับ
แต่ถ้าเป็นเยอะแล้ว ภูมิต้านทานต่ำมากๆ มีเชื้อในร่างกายเยอะแล้ว มักจะมีร่างกายซูบผอม มีผื่น PPE ขึ้นตามตัว มีฝ้าในปาก และอื่นๆ อีกเป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าคนที่มีเชื่อ HIV อยู่แล้ว มีตุ่มขึ้น ถ้าเราโดน หรือสัมผัสตัวเขา เรามีโอกาสมีจะติดเชื้อป่าวค่ะ
ถ้าคนที่มีเชื่อ HIV อยู่แล้ว มีตุ่มขึ้น ถ้าเราโดน หรือสัมผัสตัวเขา เรามีโอกาสมีจะติดเชื้อป่าวค่ะ
หมอครับอยากทราบว่าผมรับยาต้านมาประมาน4เดือนเเล้วทานยาตรงเวลาตลอดเเต่มีตุ่มขึ้นที่ข้อเท้า4-5จุดคล้ายยุงกัดมีอาการคันร่วมด้วยรอยจะเเดงอยู่ประมาน3วันแบบนี้เเสดงถึงอาการผิดปกติหรือเปล่าครับ
ผมอายุ 57 ปี มีอาการผื่นขี้นที่เท้ามีอาการคัน ไปหาหมอผิวหนังที่สถาบันโรคผิวหนังแต่ไม่หาย เลยไปตรวจเลือดที่คลินิกนิรนาม ปรากฎว่าผลเลือดเป็นบวก(+) และตรวจ CD4=54(ต่ำมาก) เลยเข้ารับยาต้านไวรัส(13 ก.ค.2561) 6 เดือนผ่านไป(ม.ค.2562) เช็ค CD4=226 และตรวจไวรัสโหลด(VL)=L20 copy/ml แต่ช่วงนี้ยังมีตุ่มคันขึ้นตามเท้า ขา ประปราย ผมพยายามไม่เกาหรือเกาแต่ไม่เคยให้เป็นแผลเปิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ผมดำเนินชีวิตตามปกติ ออกกำลังกายทุกวันๆประมาณ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ แต่อาการต่ำผื่นคันยังมีขึ้นประปราย ไม่รู้ว่าตุ่มคันพวกนี้จะหายไปช่วง CD4 เท่าไหร่ครับ
ผมเปนผุ้ติดhiv ผมกินยาต้านมา2เดือนเเล้ว
ยุดีๆ ตุ่มก้อขึ้นผมกังวลมากเลยคับ มันจะหายไหมคับหมออ
เป็นตุ่มมีหัวหนองครับ ไม่คัน ทั่วร่างกาย แต่ไม่เย็น รวมแล้ว 8 -9 เม็ด เมื่อหายแล้วเป็นแผลเป็นสีคล้ำๆ แต่ไม่มีอาการอะไรเลย มีโกาสแค่ไหนที่มันจะเป็นตุ่ม ppe ครับ
เป็นตุ่มมีหัวหนองครับ ไม่คัน ทั่วร่างกาย รวมแล้ว 8 -9 เม็ด เมื่อหายแล้วเป็นแผลเป็นสีคล้ำๆ แต่ไม่มีอาการอะไรเลย มีโกาสแค่ไหนที่มันจะเป็นตุ่ม ppe ครับ
ขอสอบถามคุณหมอหน่อยค่ะ ในผู้ป่วยที่รับยาต้านไวรัสแล้ว กินยาตรงเวลาตลอดค่ะ ค่าไวรัสโหลดตรวจไม่พบแล้ว แต่เมื่อ2อาทิตย์ก่อน ไม่สบายเป็นไข้หวัดหนักเลยประมาณ1อาทิตย์ได้ พบว่าหลังหายป่วยมีผื่นขึ้นตามเท้าและเข่าเล็กน้อย และวันนี้เพิ่งสังเกตเห็นว่าขึ้นตรงท้องแขนอีกเป็นจุดเล็กๆหลายจุดเลยจะเกี่ยวกับยาที่กินมั้ยคะ หรือเพราะภูมิคุ้มกันเราต่ำมากผื่นจึงกลับมาขึ้นได้ เกี่ยวหรือเปล่าคะ
ผมอยากทราบว่าถ้ากินยาต้านไวรัสตุ่มเอดส์จะมีอยู่ไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)