November 11, 2018 20:11
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการข้างต้นนั้นหมอคิดว่ามีโอกาสที่จะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เกิดขึ้นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองโดยการทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมดูครับ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอเห็นด้วยกับคุณหมอสำหรับอาการเหล่านี้ค่อนข้างจะตรงกับอาการของโรคซึมเศร้า ทั้งความสนใจที่เปลี่ยนไป การไม่อยากพบเจอผู้คน นอนไม่หลับ และความรู้สึกหมดพลังนะครับ
และขอเพิ่มเติมในส่วนของการดูแลตนเองเบื้องต้นนะครับ ผมสังเกตว่าจากที่เล่ามาเคยมีอาการเหล่านี้ขณะประจำเดือนมาหรือใกล้มาใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้สิ่งที่แปลกไปก็คืออาการเหล่านี้ยังคงอยู่แม้ว่าประจำเดือนจะหมดไปแล้ว ตรงนี้อยากให้ลองนึกดูนะครับว่าตอนที่เรามีประจำเดือน เราใช้วิธีการอะไรในการปรับอารมณ์ตนเองและลองทำวิธีการนั้นดูครับ
นอกจากนั้นแล้ว การทำกิจกรรมอย่างอื่นเช่น การดูหนัง ฟังเพลง ทำงานกิจกรรมที่ตนเองชอบ หรือแม้กระทั่งการเริ่มออกกำลังกาย ก็เป็นสิ่งที่สามารถช่วยในเรื่องการปรับอารมณ์ของเราได้นะครับ หาเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวที่เราไว้ใจเพื่อพูดคุยในเรื่องอารมณ์หรือความคิดของเราได้ครับ การฝึกทำเรื่องเหล่านี้จะสามารถเป็นตัวช่วยของเราเมื่อมีอาการเหล่านี้ในอนาคตได้ครับ
สุดท้ายนี้หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปในเร็ววันนี้ก็อยากให้ลองทำตามที่คุณหมอว่าก็คือการเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ครับ ซึ่งการไปหาจิตแพทยืนั้นอาจจะมีการใช้ยาร่วมกับการให้คำปรึกษาเพื่อช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์และช่วยให้อาการบางตัวของเราลดลงไปได้ครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ และหากมีเรื่องสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถถามได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่มีอาการผิดปกติทางด้านอารมณ์ความรู้สึกเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุหรือไม่มีเหตุการณ์ใดมากระตุ้นทำให้เกิดอารมณ์ทางลบ การมีอารมณ์ทางลบเช่นนี้อาจเกิดจากความผิดปกติของการหลั่งสารเคมีในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคทางด้านอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ ได้ค่ะ
เบื้องต้น สามารถเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
5. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
6. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
7. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
8. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
9. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
10. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีค่ะ หนูอายุ17 รู้สึกไม่มีความสุข ไม่ได้ยิ้มไม่ได้หัวเราะเลย หงุดหงิดง่าย ขี้รำคาญ ครอบครัวพูดอะไรด้วยก็อารมณ์เสีย ไม่อยากพูดคุยกับใคร ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่คนเดียว ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรสักอย่าง รู้สึกเหนื่อยอ่อนเพลียตลอด นอนไม่ค่อยหลับ นอนน้อย ร้องไห้ง่าย บางวันที่ต้องฝืนยิ้มฝืนหัวเราะเวลาอยู่กับคนอื่น จะรู้สึกเหนื่อยมากๆ พอมีเรื่องให้เครียดหรือรู้สึกแย่ก็อยากจะหายไป เป็นแบบนี้มาประมาณ 4อาทิตย์แล้วค่ะ หนูแทบจะไม่พูดกับใครเลยเวลาไปเรียน ตอนเย็นก็รีบกลับบ้านมาอยู่คนเดียว ตอนแรกคิดว่าตัวเองใกล้มีประจำเดือน เพราะเคยเป็นแบบนี้มาแล้ว แต่หมดประจำเดือนมา3อาทิตย์แล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ปกติแค่เจอหน้าเพื่อนหนูก็ยิ้มได้แล้ว หนูชอบที่จะอยู่กับเพื่อนชอบคุยชอบทำให้เพื่อนหัวเราะ แต่ตอนนี้หนูไม่อยากเจอใครเลย หนูควรทำอย่างไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)