November 15, 2018 10:56
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการข้างต้นนั้นถือเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวลได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็จะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ถ้าหากเป็นโรคซึมเศร้านั้นอาการวิตกกังวลที่เกิดขึ้นมักเป็นความวิตกกังวลในเชิงลบต่อตนเอง เช่น กังวลว่าตัวเองจะทำอะไรผิดพลาด กลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตนเอง
แต่ถ้าหากความกังวลเป็นในลักษณะกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้น กังวลว่าคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรควิตกกังวลได้มากกว่าครับ
ในที่นี้หมอขอแนบลิ้งค์สำหรับประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองเอาไว้ให้นะครับ ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นติดต่อกันมานานเกิน 2 สัปดาห์ หรือเริ่มส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตแล้ว หมอก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมครับ เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมต่อไป
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอเพิ่มเติมจากคุณหมอในส่วนของการดูแลตนเองอันเกิดมาจากความเครียดนะครับ เพราะว่าหากไม่ได้มีการดูแลจิตใจตนเองหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็มีโอกาสสูงที่ความเครียดนี้จะพัฒนาให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
ซึ่งเรื่องของการดูแลตนเองเบื้องต้น อยากให้คุณลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่นการออกกำลังกาย หางานอดิเรกทำ หรือทำกิจกรรมทีคุณรู้สึกชอบทำไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง ฟังเพลงนะครับ การทานอาหารที่ตนเองชอบ หรือแค่เดินกลับบ้านในเส้นทางใหม่ๆก็สามารถลองทำได้ครับเพียงแค่ให้คำนึงถึงในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ลองหาเพื่อนที่ไว้ใจหรือคนในครอบครัว เพื่อลองบอกเล่าสิ่งที่ไม่สบายใจเหล่านี้ให้เขาฟัง การที่มีคนรับฟังเราจะทำให้เรารู้สึกว่ายังมีคนที่อยู่เคียงข้างและจะเป็นกำลังใจที่ดีให้กับเราได้ครับ ทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการเหล่านี้ยังไม่ดีขึ้น หรือมีความเครียดมากขึ้น ก็อยากจะให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและรักษาต่อไปครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากฝากสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่จะมีบริการให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์ซึ่งคุณสามารถลองโทรเข้าไปเพื่อรับบริการได้ โดยทางเจ้าหน้าที่จะสามารถช่วยเป็นผู้ฟังที่ดี และในบางรายอาจจะสามารถช่วยให้พบทางออกของปัญหาได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามการโทรหาสายด่วนอาจจะต้องรอสายนานเป็นบางช่วงจังหวะเวลานะครับ หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
หากไม่แน่ใจว่าเครียด สามารถเช็คอาการได้ด้วยการทำแบบประเมินความเครียดด้วยตนเองดูก่อนนะคะ
โดยสำรวจจากอาการภายใน 1-2 เดือน ว่ามีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน โดยให้คะแนนตามระดับความรุนแรงของอาการดังนี้
ไม่เคยเลย 0 คะแนน
ครั้งคราว 1 คะแนน
บ่อยๆ 2 คะแนน
ประจำ 3 คะแนน
1. นอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องกังวลใจหรือคิดมาก
2. รู้สึกหงุดหงิด รำคาญใจ
3. ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะประสาทตึงเครียด
4. รู้สึกวุ่นวายใจ
5. ไม่อยากพบปะผู้คน
6. ไม่มีความสุข รู้สึกเศร้าหมอง
7. ปวดหัวข้างเดียวหรือปวดขมับ 2 ข้าง
8. รู้สึกหมดหวังในชีวิต
9. รู้สึกว่าชีวิตตนเองไร้คุณค่า
10. กระวนกระวายตลอดเวลา
11. ขาดสมาธิ
12. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงที่จะทำอะไร
13. เหนื่อยหน่ายไม่อยากทำอะไร
14. ใจเต้นแรง
15. เสียงสั่น ปากสั่น มือสั่นเมื่อรู้สึกไม่พอใจ
16. กลัวผิดพลาดในการทำสิ่งต่างๆ
17. ปวดเกร็งบริเวณท้ายทอย หลัง ไหล่
18. ตื่นเต้นง่ายกับเหตุการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
19. มึนงง วิงเวียนศีรษะ
20. ความสุขทางเพศลดลง ขาดความใส่ใจในการดูแลตัวเอง
หากรวมคะแนนได้มากกว่า 17 คะแนน หมายความว่ามีความเครียดในระดับที่สูงกว่าปกติ ควรวิธีผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การทำกิจกรรมที่ชอบ การพูดคุยปรึกษาปัญหากับคนที่ไว้วางใจ เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำพบจิตแพทย์ได้นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม ให้คุณหมอพิจารณาการรักษาด้วยยาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คือหนูมีอาการวิตกกังวลมากับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นมีความรู้สึกเบื่อๆ ท้อแท้ เหนื่อยง่ายมีอารมณ์เหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลาถ้าคิดถึงเรื่องไม่สบายใจมากๆมีโอากาสที่จะไปภาวะความเครียดไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)