January 11, 2019 00:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการของโรค HIV ในระยะแรกนั้นจะไม่มีความจำเพาะและจะไม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ครับ
โดยทั่วไปแล้วหลังได้รับเชื้อ HIV มาจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปงดค ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งอาการเหล่านี้จะใกล้เคียงกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปมากและจะหายไปได้เองในเวลาอันรวดเร็ว จึงไม่สามารถใช้อาการในการบ่งบอกว่าจะมีการติดเชื้อ HIV ได้ครับ
ในกรณีนี้ถ้าหากยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอรับยาต้านไวรัสมารับประทารเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ โดยจะต้องรับประทานยาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ครับ
แต่ถ้าหากเกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาการติดเชื้อดูครับ ซึ่งในปัจจุบันนั้นเมื่อผ่านไป 14 วันหลังได้รับความเสี่ยงก็จะเริ่มตรวจพบการติดเชื้อได้แล้ว แต่ถ้าหากตรวจเลือดในเบื้องต้นแลเวไม่พบการติดเชื้อ ก็ควรจะได้รับการตรวจเลือดยืนยันที่เวลา 1 และ 3 เดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
พอดีผมไปมีเพศสัมพันธ์มาคับ คือตอนแรกผมใส่ถุงยางอนามัยครับ แต่พอสำเร็จความใคร่ครั้งแรกแล้วปมก็ต่อรอบที่สอง แต่ผมไม่ได้ใส่ถุงในรอบที่สอง แต่เหมือนเอาเข้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีละก็เอาออกมาเลยครับ แต่พอกลับมาวันต่อมา ผมมีอาการเจ็บคอทปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นฝ้าที่ลิ้น อยากทราบว่าใช้อาการเบื้องต้นของ HIV มั้ยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)