สวัสดีค่ะ คุณหมอ หนูอายุ18ปี ประเดือนหนูไม่1เดือน1แล้วซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ2-3ครั้งแล้ว ก็ไม่ท้อง อย่างนี้จะเป็นอะไรไหมค่ะ หูนกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยแบบนี้มีผลไหมค่ะ

สวัสดีค่ะ
การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะจะมีโอกาสผิดพลาดน้อยที่สุด เมื่อตรวจหลังจากมีการปฏิสนธิไปแล้ว 14 วันค่ะ คือมีความผิดพลาดได้ไม่ถึง 1%
หากตรวจเร็วเกินไป จะยังไม่สามารถแปลผลที่เชื่อถือได้ค่ะ
ดังนั้นหากการตรวจครั้งที่แล้ว ไม่ถึง 14 วันจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย แนะนำตรวจซ้ำอีกครั้งค่ะ

หากไม่เกิดจากการตั้งครรภ์จริง สาเหตุที่ทำให้เกิดประจำเดือนมาผิดปกติ หรือไม่มานั้น มีหลายปัจจัยมากค่ะ ยกตัวอย่าง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับรังไข่ (ถุงน้ำรังไข่หลายใบ ;PCOS ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสตรีที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ น้ำหนักมาก สิวขึ้น) มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด หรือศูนย์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนในสมอง ไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น
สาเหตุแต่ละอย่าง ต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ
ควรไปพบสูติแพทย์หากประจำเดือนขาดมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือ 3 รอบเดือนตลอด 1 ปีค่ะ

สวัสดีค่ะ การตรวจการตั้งครรภ์สามารถตรวจได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน โดยตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด กรณีถ้าตรวจถูกต้อง ตรวจในตอนเช้า ตรวจมาแล้ว 2-3ครั้งแล้วขึ้นเพียงขีดเดียวก็แสดงว่าไม่ตั้งครรภ์จริงค่ะ สำหรับการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินปกติแล้วจะไม่ได้ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปมาก ส่วนมากจะใกล้เคียงวันเดิมหรือคลาดเคลื่อนไปประมาณ 1 สัปดาห์ ยังไงถ้าประจำเดือนขาดนานติดต่อกันนานกว่า 3 เดือนแนะนำให้ไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการหาสาเหตุนะคะ สำหรับสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาดนอกจากการตั้งครรภ์แล้วอาจคิดถึงจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เช่น เกิดความเครียด ระดับฮอร์โมนผิดปกติ น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป ขาดสารอาหาร ออกกำลังหายหักโหมจนเกินไป ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome) โรคเรื้อรังบางชนิด วัยที่เข้าใกล้วัยหมดประจำเดือน ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เป็นต้นค่ะ