กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

กะโหลกศีรษะแยก (Separated sutures)

เผยแพร่ครั้งแรก 15 มิ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

ภาวะกะโหลกศีรษะแยก คือการเกิดรอยแยกที่ไม่ปกติขึ้นที่กะโหลกของเด็กทารก โดยศีรษะของเด็กทารก ประกอบไปด้วยแผ่นกระดูก 6 แผ่นที่จะเชื่อมเข้าหากันแน่นขึ้นตามอายุของเด็ก รอยขอบของแผ่นกระดูกที่เชื่อมบรรจบกัน เรียกว่ารอยประสาน (Suture)

รอยประสานเป็นเนื้อเยื่อแข็งแรงและยืดหยุ่นที่ยึดเกาะกระดูกกะโหลกเข้าด้วยกัน รอยประสานสองชิ้นก่อตัวขึ้นจากเยื่อบุที่เรียกว่ากระหม่อมหรือจุดอ่อนนุ่มสองจุด รอยประสานจะช่วยป้องกันสมองของทารกที่ยังอยู่ระหว่างการเจริญเติบโต แต่เมื่อรอยประสานแยกตัวออกจากกันจะทำให้เกิดการเว้าหรือช่องบวมออกที่ชัดเจนอย่างมากบนศีรษะของทารก ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้อย่างง่ายดาย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ควรพาเด็กไปพบแพทย์ทันทีที่สังเกตเห็นการแยกตัวของกะโหลกทารก เพราะภาวะนี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกะโหลกศีรษะแยก

ภาวะกะโหลกศีรษะแยกเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่โดยทั่วไปแล้วมักเกิดจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตราย เช่น การเกิดภาวะกะโหลกศีรษะแยกตั้งแต่กำเนิด เด็กที่มีภาวะนี้จะมีแผ่นกะโหลกที่โตขึ้นซ้อนทับกันอยู่จนกลายเป็นแนวกะโหลก ซึ่งรอยนูนจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน และจะทำให้ศีรษะของเด็กกลับมามีรูปร่างปกติ

แต่บางครั้งก็อาจพบสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะกะโหลกศีรษะแยก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนี้

  • ภาวะขาดสารอาหาร ภาวะขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด สามารถทำให้กะโหลกทารกแยกได้ โดยทารกที่ขาดสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้จะไม่สามารถประคองเนื้อเยื่อเชื่อมต่อและแผ่นกระดูกได้อย่างที่ควรจะเป็น หากเกิดภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ก็สามารถทำให้กระหม่อมของทารกยุบตัวลงคล้ายกับการยุบจากภาวะกะโหลกศีรษะแยกก็ได้
  • การกระทบกระทั่ง โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายเด็ก สามารถทำให้กะโหลกศีรษะแยกและกระหม่อมบวมได้ การกระแทกที่ศีรษะของเด็กอย่างแรงยังอาจทำให้อวัยวะภายในอย่างสมองเลือดออก หรือทำให้มีเลือดสะสมอยู่บนพื้นผิวสมองของเด็ก (Subdural Hematoma) การกระทบกระแทกที่ศีรษะของทารกนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่ต้องมีการรักษากับแพทย์ทันที
  • โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โรคและภาวะต่าง ๆ ที่เพิ่มแรงดันภายในกะโหลกอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกะโหลกศีรษะแยกในเด็กทารกได้ โดยภาวะและโรคที่มีความเชื่อมโยงกับแรงดันภายในกะโหลกมีดังนี้

การรักษาภาวะกะโหลกศีรษะแยก

กระหม่อมหรือจุดอ่อนนุ่มของศีรษะอาจบวมออกขณะที่ทารกอาเจียน นอนหงาย หรือร้องไห้ แต่หลังจากที่เด็กหยุดร้องไห้ นั่งตัวตรง หรือหยุดอาเจียน อาการบวมดังกล่าวควรจะหดตัวกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือมีการเว้าเข้าไปเล็กน้อย แต่หากสังเกตว่าจุดดังกล่าวยังคงโตขึ้นอยู่ควรเข้าพบแพทย์ในทันที

กุมารแพทย์สามารถประเมินการบวมของศีรษะได้ด้วยการตรวจร่างกายเด็ก และสัมผัสหาช่องแยกระหว่างแผ่นกะโหลกเพื่อดูระยะห่างระหว่างแผ่นศีรษะแต่ละแผ่น นอกจากนี้แพทย์อาจตรวจสอบโครงสร้างกระดูกภายในศีรษะของทารกด้วยการทดสอบต่างๆ เช่น การสแกนคอมพิวเตอร์ (Computed Tomography (CT)) การสแกนคลื่นสะท้อนแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging (MRI)) หรืออัลตราซาวด์ (Ultrasound) และยังอาจต้องมีการทดสอบประเภทอื่น เช่น การตรวจเลือดและเจาะหลัง การตรวจดวงตาเพื่อตรวจหาปัญหาสายตาของเด็ก และตรวจสอบเส้นประสาทดวงตา

สาเหตุของภาวะกะโหลกศีรษะแยกส่วนมากมักเป็นเรื่องร้ายแรงและอาจอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นการเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยให้พบสาเหตุที่แท้จริงจึงเป็นเรื่องสำคัญและส่งผลอย่างมากต่อกระบวนการรักษาภายหลังการวินิจฉัย

การป้องกันภาวะกะโหลกศีรษะแยก

ไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันการเกิดภาวะกะโหลกศีรษะแยกได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็มีขั้นตอนลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ขึ้น ดังนี้

  • ติดตามวันฉีดวัคซีนของเด็ก โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันเชื้อที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • หลีกเลี่ยงให้เด็กเข้าใกล้ผู้ที่เคยมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • ป้องกันเด็กจากอุบัติเหตุที่อาจมีการกระแทกที่ศีรษะด้วยการติดแผ่นกันกระแทกตามขอบเปลนอน ประกอบรถเข็นเด็กให้แข็งแรงทนทาน และกำจัดสิ่งของที่ไม่แข็งแรงออกจากห้องของเด็ก
  • ดูแลให้เด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วนเพียงพอในแต่ละวันตามที่แพทย์แนะนำ
  • หากพบความผิดปกติใดๆ ให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที

4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
open.edu, 4.6 Assessing moulding and caput formation (https://www.open.edu/openlearncreate/mod/oucontent/view.php?id=272§ion=20.8)
Am J Dis Child., Wide sutures and large fontanels in the newborn. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/1266823)
Suzanne Allen, Separated Sutures (https://www.healthline.com/health/sutures-separated), June 21, 2016

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

ดูคำถามและคำตอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการนี้
คนควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน แล้วอาการสมองบวมน้ำเกิดจากการกินน้ำเยอะไปได้ไมค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
การเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไม่จำเป็นต้องมาจากเชื้อวัณโรคเสมอไปใช่ไหมค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
สวัสดีค่ะ ขอสอบถามค่ะ ถ้าเคยเป็นเยื้อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อวัณโรค จะมีผลข้างเคียงระยะยาวเรื่องความจำ สมาธิ และอารมณ์ด้วยไหมคะ?
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
สอบถามค่ะ ราคาวัคซีน1ขวบค่าใช้จ่ายประมานเท่าไหร่คะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)