January 20, 2019 14:38
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
อาการปวดท้องด้านซ้ายสามารถเป็นได้หลายอย่างค่ะ
1. การติดเชื้อที่ลำไส้ เช่น แบคทีเรีย เป็นต้น อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่สะอาด ดื่มน้ำไม่สะอาด ทำให้มีอาการท้องเสียถ่ายเหลวร่วมด้วย
2กรวยไตอักเสบ อาจมีอาหารร่วมเช่น เป็นไข้สูง ปวดหลัง บางคนมีปัสสาวะแสบขัดได้ค่ะ
3.พยาธิต่างๆ อาจมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว บางคนอาจรู้สึกปวด อยากถาายบ่อยๆ ถ่ายไม่สุด ถ่ายแล้วอบากถ่ายอีก เป็นต้น บางคนอาจถ่ายมีพยาธิออกมาให้เห็นได้ค่ะ
4.ยาบางอย่าง หรืออาหารบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ เป็นต้น
5.สาเหตุจากกล้ามเนื้อ คนไข้อาจมีประวัติยกของหนัก ออกกำลังกาย โดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณท้องมาก การปวด อาจสัมพันธ์กับการขยับตัว สวัสดีค่ะ ถ้าอาการปวดเป็นหลังจากการออกกำลังกาย โดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณท้องมาก การเกร็งหน้าท้องเป็นเวลานาน หรือการบิดอยู่ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานค่ะ มีจุดกดเจ็บชัดเจน โดยมากหายได้เองค่ะ ถ้าไม่หาย สามารถทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือ ไดโคฟิแนคได้ (โปรดปรึกษาแพืย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยานะคะ)
หากอาการไม่ดีขึ้น ปวดมาก มีไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ
6.สำหรับผู้หญิง อาจเป็นความผิดปกติของระบบสืบพันธฺสตรีได้ เช่น เนื้องอกของมดลูก รังไข่ เป็นต้นค่ะ หรือการติดเชื้อในบริเวณดังกล่าว เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือ ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงที่จะตั้งครภ์ แล้วมีอาการปวดท้องด้านใดด้านหนึ่งมากๆ บวกกับประจำเดือนขาด ผลตรวจครรภ์เป็นบวก อาจเกิดจากการท้องนอกมดลูกได้ค่ะ
**สำหรับอาการดังกล่าว เป็นการวินิจฉัยอย่างพอสังเขป การให้การรักษาต้องได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มเติมโดยแพทย์ ดังนั้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่ รพ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องหากอาการไม่ดีขึ้นค่ะ**
**ส่วนอาการปวดประจำเดือน
อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุการเกิดสองแบบ ได้แก่
>>แบบแรก คือ เกิดจากการหดตัวของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือน สามารถเกิดได้เป็นปกติค่ะ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้น ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และในช่วงการมีประจำเดิอน โดยเฉพาะ 12-72 ชมแรกค่ะ อาการปวด จะปวดแบบบีบๆ เหนือหัวหน่าว บางคนอาจร้าวไปหลังได้ด้วย และร่างกาย อาจหลั่งสารความเจ็บปวดออกมา ทำให้มีอาการตามระบบร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ ท้องเสียถ่ายเหลว เป็นต้นค่ะ
>>แบบที่สอง คือ การปวดประจำเดือนทีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติขอวระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอก ในมดลูก หรือการติดเชื้อ เป็นต้น
ผู้ป่วยอาจประสบปัญหา เช่น ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติได้ค่ะ
คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อมีประจำเดือนและมีอาการปวดประจำเดือนคือ
1.ทานน้ำมากๆ
2.ยาแก้ปวดที่ช่วยได้ เช่น mefenamic acid หรือ ponstan , diclofenac , ibuprofen , พาราเซตามอล เป็นต้น
3.การประคบอุ่น
4.พักผ่อนมากๆ
5.พยายามไม่มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดิอน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายค่ะ
หากมีอาการผิดปกติ ที่หมอกล่าวไป ที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติที่จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนแบบที่สอง ได้แก่ ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ
สำหรับโรคภูมิแพ้จมูก และกระดูกสันหลังคด ที่เป็นไม่มาก ไม่มีผลต่อการปวดท้องหรือประจำเดือนหรือปวดเอวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หนูอายุ18 นะคะ หนูปวดท้องข้างซ้ายบ่อยๆค่ะ แล้วก็จะปวดเอวช่วงมีประจำเดือน แต่เดือนนี้หายเเล้วนะคะ แล้ว2-3วันนี้ก็ปวดเอวมากค่ะ มีไข้ แล้วก็ปวดหัว หนูเป็นภูมิแพ้ด้วยนะค่ะ แล้วก็กระดูกสันหลังคด คือมันเกี่ยวกันมั้ยค่ะ แล้วปวดท้องข้างซ้ายเกิดจากอะไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)