สวัสดีครับ ผมมีความเครียดและต้องการหาทางออกของปัญหาครับ.. ผมเป็นคนอารมณ์ร้อนรุนแรงและไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้ทำเรื่องที่ไม่ดี เป็นปัญหาชีวิต และมักคิดได้เมื่อเวลาไม่เครียดแล้ว 1. ฉุนเฉียวขับรถเร็วมาก เมื่อมีอารมณ์โกรธ ที่มาเเบบเฉียบพลัน ตอบสนองอารมณ์ ด้วยการกระแทกคันเร่งจนล้อรถหมุนฟรี เลี้ยวปาด เบิ้นเครื่องยนต์เสียงดัง ขับรถไวกว่าคนบนท้องถนนต่างกับคนหงุดหงิดทั่วๆไปมาก อันตรายไม่เคารพกฏ ยิ่งมีคนข้างๆด่าหงุดหงิดยิ่งทำ .. แต่พออารมณ์เย็น จะขับรถให้ทาง,มีน้ำใจ,ขับไม่เร็วขับนุ่ม รักษากฏระเบียบและรู้กฏหมายได้เป็นอย่างดี ... 2. ผมเป็นครูสอน ทางด้านดนตรี มักมีการสอนเด็กที่ใช้อารมณ์ต่างกันไปในแต่ละชั่วโมง ทำให้เหมือนรู้สึกดีๆร้ายๆ โกรธง่ายมากหายเร็วมาก ปวดหัวไมเกรนบ่อยและรู้สึกล้าสมองไม่อยากให้ใครจู้จี้หลังจากงานแม้แต่นิด 3. เป็นคนหัวแข็ง,เถียง,คิดว่าไม่มีใครยอมรับความเห็นตนเอง ,มักไม่มีเหตุผลในการเถียง(คิดว่านั่นคือเหตุผลของตน),มั่นใจในตนเองสูง 4. รู้สึกหมดแรงบันดาลใจ ไม่มีความอยากทำอะไร ไม่สนใจอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ อยากอยู่เฉยๆ บางทีก็ดีใจมากๆแค่ว่า ได้ทำอะไรที่อยากทำ .. บางทีก็นิ่งเหม่ออยากเอาแต่นอน.. 5. เข้าสังคมไม่เก่ง ไม่รู้จะคุยกับคนอื่นเรืรองอะไร ไม่มีปากมีเสียง.. ไม่ชอบคนเยอะ (เรื่องนี้กระทบต่ออาชีพ) จากที่กล่าวมายังไม่หมดครับ แต่.. อยากให้ช่วยหาทางออกให้กับสิ่งที่ผมเกิดขึ้น #มีประวัติเคยทะเลาะกับแฟนขั้นทำร้ายร่างกาย ไม่เลือดตกยางออก( 5ปีมาแล้ว) #มีประวัติชกต่อยจนเพื่อนแอดมิด นานมาแล้ว #ไม่ชอบเห็นความรุนแรง,คนทะเลาะกัน,คนรังแกสัตว์,รถชน.. เมื่อได้ยินหรือเห็นจะทำให้อารมณ์ร้อนทันทีเฉียบพลัน ชอบงานอดิเรกไร้สาระ .. ช่วยด้วยครับ

สวัสดีครับ
อาการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มีการใช้อารมณ์หรือทำพฤติกรรมที่รุนแรงบ่อยๆ หงุดหงิดโมโหง่ายนั้น อาจมีสาเหตุได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- ขาดทักษะในการควบคุมอารมณ์และผ่อนคลายตนเอง
- โรคระเบิดอารมณ์เป็นครั้งคราว(Intermittent explosive disorder)
- โรคอารมณ์สองขั้วหรือไบโพลาร์
- โรคซึมเศร้า

ในกรณีนี้หมอมองว่าอาจจะมีลักษณะเข้าได้กับโรคบางอย่างตามที่ยกตัวอย่างมาได้ มากกว่าที่จะเป็นเพียงการทักษะการควบคุมอารมณ์ธรรมดาครับ เนื่องจากอาการเป็นมานาน ดูมีการใช้ความรุนแรงที่มากเกินควร และอาการดังกล่าวส่วผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคมและการทำงาน

ในกรณีที่เป็นโรคระเบิดอารมณ์เป็นครั้งคราวนั้นสาเหตุของการระเบิดอารมณ์ในแต่ละครั้งจะต้องชัดเจน แต่การตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นนั้นจะต้องมากเกินกว่าที่เป็นระดับที่ยอมรับได้ โดยอาจเป็นได้ทั้งการใช้คำพูดวาจาที่รุนแรงหรือเป็นการกระทำที่รุนแรง ทำลายข้าวของ ทำร้ายร่างกายก็ได้ครับ อาการเหล่านี้มักคงอยู่มานานอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป และมักมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือมีการบาดเจ็บเกิดขึ้น

ส่วนโรคอารมณ์สองขั้วนั้น ช่วงที่ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดได้จะเป็นช่วงที่มีอารมณ์เป็นขั้วบวก คือ จะเป็นช่วงที่มีอารมณ์ร่าเริงหรือหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ นานติดต่อกัน 4-7 วันขึ้นไป ร่วมกับมีอาการ
- มั่นใจในตัวเองมากขึ้น
- พูดเก่งขึ้น
- มีความคิดแล่นเร็วมากขึ้น
- วอกแวกง่าย
- มีกิจกรรมมากขึ้น รู้สึกมีเรี่ยวแรงที่จะทำนู่นทำนี่ตลอดเวลา
- มีการใช้เงินลงทุน หรือซื้อของฟุ่มเฟือยมากขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล

ส่วนโรคซึมเศร้านั้น อาการหงุดหงิดอาจจะไม่ได้เป็นอาการที่บ่งชี้ถึงโรคนี้ แต่การที่มีอารมณ์ที่เศร้าหดหู่มากกว่าปกติจะส่งผลให้มีอารมณ์หงุดหงิดง่ายขึ้นได้
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะเป็นอาการที่เหมือนอาการในช่วงอารมณ์ขั้วลบของโรคอารมณ์สองขั้ว คือ จะมีอารมณ์เศร้ามากกว่าปกติหรือรู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่า 2 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการร่วม เช่น มีปัญหาการกินการนอนที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีสมาธิ รู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรง ความคิดความจำไม่ดี มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย

หมอแนะนำให้ลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมดูครับ เมื่อทราบสาเหตุที่แน่ชัดก็จะมีวิธีรักษาแก้ไขให้อาการและอารมณ์ดีขึ้นได้ โดยอาจใช้วิธีการรับประทานยาเพื่อปรับอารมณ์ ฝึกการควบคุมอารมณ์และความคิด ทำพฤติกรรมบำบัด/จิตบำบัด ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เป็นต้น

อาการในลักษณะนี้สามารถไปเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์ได้ทุกคนครับ

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นแนะนำให้เริ่มไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาสิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมดูก่อนครับ หรือในกรณีที่เป็นสิทธิข้าราชการก็สามารถไปรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง การไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิจะช่วยให้สามารถตรวจรักษาได้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ

ในกรณีที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาไม่มีจิตแพทย์ประจำอยู่ ก็สามารถขอให้ทางโรงพยาบาลออกหนังสือส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ประจำอยู่ได้ครับ ซึ่งก็จะช่วยให้ใช้สิทธิการรักษาฟรีได้เหมือนกับโรงพยาบาลตามสิทธิ