มีไข้สูงมาประมาณ4-5วันแล้วค่ะ ช่วง2-3วันแรก อาการหนักมากๆ ถึงขั้นกินข้าวไม่ไหว ต้องคอยเช็ดตัวลดไข้ตลอด และก็กินยาลดไข้ตามปกติ แต่พอยาหใดฤทธิ์ ก็ต้องกินใหม่ เพราะไช้กลับมาสูงอีก มีอาการพวกปวดศีรษะ แต่เป็นอาการของไมเกรน มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะคอถึงกลางหลัง แขนขา และมีอาการอาเจียนพ่วงมาบ้าง ร่างกายอ่อนล้ามากค่ะ ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ

สวัสดีคะ กรณีดังกล่าว แนะนำให้ไปพบแพทย์นะคะ เพื่อหาสาเหตุที่อาจเป็นอันตรายได้ เช่น การติดเชื้อมนกระแสเลือด เป็นต้นค่ะ อาการไข้เฉียบพลัน มีสาเหตุมาได้หลายอย่างค่ะ ได้แก่ 1.การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ปวดตามตัวร่วมดัวย , ไข้เลือดออก อาจมีไข้สูงลอย สังเกตเห็นจุดเลือดออกตามตัว (มีหรือไม่มีก็ได้) ปวดท้อง เบื่ออาหาร , เชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้หวัดธรรมดา เป็นต้นค่ะ *สำหรับคนไข้ ถ้ามีอาการไข้สูง มีน้ำมูก ไอ หรือมีประวัติคนในบ้าน เป็นไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้นึกถึงไข้หวัดหญ่มากที่สุดค่ะ **อย่างไรก็ตาม ไข้หวัดใหญ่ในผู้ใหญ่มักไม่อันตรายค่ะ แนะนำว่า ทานยาพาราเซตามอลทุก 6ชม พักผ่อนให้เพียงพอ ทานน้ำมากๆ ทานอาหารทีมีประโยชน์ก็เพียงพอ ไข้อาจกินเวลาประมาณ2-7 วัน หรือ เชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้เลือดออก อาการคือ ไข้สูง อาจมีเลือดออกง่ายผิดปกติ เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ บางคนอาจมีเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ตับโตค่ะ และที่พบบ่อยสุด คือ ไข้หวัดธรรมดา มีอาการไข้ต่ำๆ ไอน้ำมูก เมื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยได้บ้าง ส่วนใหญ่รักษาตามอาการ ทานยาลดไข้ ทานน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ มักหายเอง โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ค่ะ 2. การ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น คออักเสบ หูอักเสบ ต่อมทอลซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ทำให้มีอาการไข้ อ่อนเพลีย อาจมีน้ำมูกไหล ปวดศรีษะ อ่อนเพลียได้ เป็นต้น ดังนั้่น ขอแนะนำคือ การพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ หากมีไข้ทานยาลดไข้ สามารถทานยารักษาตามอาการได้ เช่น ยาแก้ไอ หรือลดน้ำมูก พัฟกผ่อนให้เพียงพอค่ะ