สวัสดีค่ะ จะขอสอบถามเกี่ยวกับการติดต่อของโรคเริมค่ะ ประวัติคือ : ตอนนี้อายุจะ26แล้ว เคยเป็นเริม(บริเวณอวัยวะเพศ)ครั้งแรกตอนเดือนเมษายนปีที่แล้วหลังจากมีoral sex และการใช้มือ (ไม่เคยมีsexด้วยการสอดใส่มาก่อนในชีวิตค่ะ) หลังจากคืนนั้นประมาณสามสี่วันเริ่มมีอาการปวดแสบ และเห็นแผล จึงไปพบแพทย์ ผลคือhsv positive ทานยาacyclovirวันละ5เวลาติดต่อกัน5วัน ไปพบแพทย์อีกครั้งอาการหายเป็นปกติ แผลหายสนิทค่ะ. หลังจากนั้นมาก็พยายามดูแลคัวเอง พีกผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เครียด ตามที่หมอแนะนำ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีอาการแสดงอีกเลยค่ะ (และยังไม่เคยมีsexหลังจากนั้นด้วยค่ะ) คำถามคือ 1.มีวิธีที่จะตรวจได้ไหมคะว่าเริมที่เป็นนั้นคือtypeไหน (ถ้าตอนนี้เราไม่ได้มีอาการแสดงของโรค) เพราะผู้ชายก็ไม่เคยเป็นเริมที่อวัยวะเพศมาก่อนเลยค่ะ และเราก็ไม่ได้มีsexด้วยการสอดใส่ วันนั้นที่ปากเค้าก็ไม่ได้มีแผลอะไรจึงค่อนข้างงงมากว่าเกิดจากเริมtypeไหน (เพราะอ่านเจอมาว่าถ้าเป็นtype1 อัตราการเป็นซ้ำจะน้อยกว่าtype2) 2.ตอนที่เป็นครั้งแรก มีอาการที่บริเวณอวัยวะเพศอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีอาการที่ปาก จนถึงปัจจุบัน(ทั้งๆที่วันนั้นมีการจูบกันด้วย) เป็นไปได้ไหมคะว่าเรายังไม่ได้มีการติดเชื้อที่บริเวณปาก? 3.ความเสี่ยงในการที่เราจะแพร่เชื้อให้กับpartner ในอนาคต หากมีsexด้วยการสอดใส่ หรือเค้าทำoral sex ให้เรา จะมีมากหรือน้อยแค่ไหนคะ และอันไหนเสี่ยงมากกว่ากันคะ (ในกรณีที่เราไม่ได้มีอาการแสดงของโรค) 4.partnerของเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างและอะไรควรหลีกเลี่ยง ในการมีsexกับเรา เพื่อที่จะป้องกันการติดเชื้อคะ (หากมีในขณะที่เราไม่ได้มีอาการแสดงของโรค) เช่น ไม่ควรทำoral sex ให้เรา เป็นต้น 5.ควรแนะนำให้partner ป้องกันตัวเองได้ด้วยวิธีไหนบ้างคะเพื่อลดอัตราการติดเชื้อจากเรา ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ ขอตอบตำถามไล่ไปตามลำดับนะครับ
1. สามารถตรวจหาชนิดของเริมจากการเก็บน้ำที่ตุ่มน้ำใสไปตรวจ PCR ได้ครับ แต่มักทำได้ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ รวมถึงจริงๆแล้วไม่มีความจำเป็นในการตรวจ เนื่องจากเริมทั้ง 2 ชนิดรักาาด้วยวิธีเดียวกันครับ
2. ถ้ายัังไม่เคยเป็นเริมที่ปากก็เป็นไปได้ว่ายังไม่มีการติดเชื้อครับ แต่ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยการoral sexในช่วงที่มีตุ่มเริม ก็อาจติดเชื้อไปที่ปากได้ครับ
3. มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อสู่partnerได้ครับ หากมีเพศสัมพันธ์กันในขณะที่มีตุ่มเริมกำเริบ
4. สามารถปป้องกันการติดเชื้อเริมได้โดยการใส่ถุงยางอนามันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ครับ แต่ถ้าoral sexจะไม่มีวิธีป้องกัน
5. ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กันในวันที่มีตุ่มเริมกำเริบ แต่ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์จริงๆก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันครับ

1.ตรวจ herpes PCR ครับ เพื่อทราบ type
2.เป็นได้ครับที่ยังไม่ติดเชื้อ ส่วนมากการติดเชื้อจะติดได้ง่ายหากมีแผลถลอกหรือเยื่อผิวหนังที่บางกว่า
เช่นการสอดใส่ เป็นต้น
3.มีความเสี่ยงครับ ความเสี่ยงยิ่งมากถ้าขณะที่คนไข้มีอาการ เช่นคันยิบๆแสบๆ หรือมีแผลเริม จะยิ่งทำให้คู่นอนติดเชื้อโอกาสสูงขึ้นครับ
4.เพื่อความปลอดภัยควรใส่ถุงยางอนามัยครับ เชื้อเริมจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตครับ เมื่อเราพูมิคุ้มกันต่ำลงเช่นพักผ่อนน้อย เป็นไข้ มันจะแสดงตัวโรคออกมาครับ
5.ใส่ถุงยางอนามัยดีที่สุดครับ หลีกเลี่ยงการจูบปาก หรือoral sexครับเนื่องจากไม่มีวิธีป้องกันการติดเชื้อได้100% โดยเฉพาะขณะมีรอยโรคครับ แต่หากที่ปากยังไม่เคยเป็นโอกาสติดเชื้อก้จะน้อยกว่าครับ

การตรวจPCRต้องใช้ตัวอย่างตรวจที่มีเชื้ออยู่ครับ ซึ่งจะมีมากบริเวณฐานของตุ่มน้ำ ดังนั้นจึงควรตรวจในช่วงที่มีตุ่มน้ำครับ

เชื้อเริมนั้นในช่วงที่โรคสงบจะไปหลบซ่อนอยู่ตามปมประสาทในร่างกายครับ ไม่ได้อยู่ที่ผิวหนัง ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่โรคไม่กำเริบจะมีโอกาสติดเชื้อได้น้อยมากครับ อย่างไรก็ตามถ้าใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งก็ย่อมปลอดภัยกว่าครับ