June 12, 2019 23:19
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อารมณ์เศร้านั้นเป็อนอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้เมื่อเราเจอกับเรื่องที่ทำให้ผิดหวัง ไม่ได้อะไรตามที่ต้องการ มีความเครียด มีการสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญไปครับ ถ้ามีสิ่งที่มากระตุ้นให้เกิดความเศร้าชัดเจน อาการเหล่านี้เป็นอยู่เพียงไม่กี่วัน และมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆก็จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าต่ำครับ แต่ถ้าหากอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอยู่ต่อเนื่องติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป เป็นมากกว่าสิ่งที่ควรจะเป็นตามสิ่งกระตุ้นที่เข้ามา จนส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตในด้านต่างๆก็จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ถ้าหากรู้สึกว่าความเศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมากกว่าที่ควรจะเป็นหรือมีอาการหลายๆข้อตามลักษณะข้างต้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการซึมเศร้า เกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ และอาจมีความเครียดหรือปัยหาต่างๆเข้ามากระตุ้นให้อาการรุนแรงขึ้นได้
อาการซึมเศร้า สามารถเช็คอาการด้วยตัวเอง โดยให้สำรวจว่า ช่วง 2 สัปดาห์มานี้มีอาการเหล่านี้เกิน 7 ข้อ และมีอาการต่อเนื่องเกือบทุกวันหรือไม่
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า ร้องไห้บ่อย
3.มีปัญหาการนอนหลับ
4.มีปัญหาด้านการกิน
5.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
6.ขาดสมาธิ เหม่อลอย
7.หงุดหงิด กระสับกระส่าย
8.รู้สึกไร้ค่า ขี้น้อยใจ
9.อยากตาย/อยากทำร้ายตัวเอง
หากประเมินอาการแล้วมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้า ควรพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป
ซึ่งการรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดีคือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยให้ควบคุมความคิด การรับรู้ การแสดงอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จิตบำบัดจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจช่วยให้ปรับตัวและรับมือกับปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ผู้ป่วยต้องดูแลตัวเองด้วยการทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หากทานยาแล้วมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นให้ไปพบแพทย์ก่อนนัด นอกจากนั้นหมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดเว้นจากสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะเป็นผลดีต่อการรักษาอย่างมากนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาเหมือนกำลังเจอเรื่องเครียดหรือเรื่องกดดันทำให้รู้สึกเศร้า ไม่มีแรง ไม่อยากออกไปเจอใคร รู้สึกผิดหวังในตัวเอง ซึ่งหากเป็นอาการเหล่านี้เพียงแค่ 2-3 วันอาจจะยังไม่สามารถบอกได้นะครับว่าเป็นเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้าแต่ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตรงนี้อยากให้ลองพิจารณาดูครับว่าเกิดอะไรขึ้น คุณถึงได้มีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นมา และเราสามารถทำอะไรกับปัจจัยที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ได้หรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งเพื่อให้ความรู้สึกที่ตกค้างอยู่ในจิตใจได้มีการระบายออกและปลดปล่อยมันออกมาในที่สุด
ที่แนะนำให้ลองหาทางเลือกอื่นๆดูก่อนเพราะว่าอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลทั่วไปที่กำลังเผชิญกับความเครียดหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เข้ามากระทบจิตใจนะครับ แต่หากอาการที่เล่ามาเริ่มเข้ามามีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน ด้านการเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆในด้านลบมากขึ้น และคงอยู่เป็นสัปดาห์โดยที่เราพยายามหาวิธีการที่จะจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้แล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ ก็อยากจะให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปนะครับ
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดในตัวคุณลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวอีกด้วยครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2-3 วันมานี้รู้สึกเหนื่อย ท้อ จมอยู่กับความเศร้าค่ะ ง่วงแต่นอนไม่หลับ น้ำหนักลดเร็ว เครียด วิตกกังวล รู้สึกผิดหวังตลอดเวลา อยากอยู่คนเดียว ร้องให้บ่อย หมดกำลังใจไม่อยากทำอะไรเลยค่ะ อาการแบบนี้เป็นโรคซึมเศร้าหรือป่าวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)