ถ้าอยากร้องไห้ตลอดเวลา ไม่มีสมาธิ บางวันนอนไม่หลับ บางวันนอนเยอะเกินไป ชอบคิดว่าตัวเองไร้ค่า ชีวิตน่าเบื่อ มันเป็นสาเหตุของอะไรคะ

หมอคิดว่าหากมีเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจเกิดขึ้นในช่วง2สัปดาห์นี้ อาจจะเป็นภาวะความเศร้าโศกหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในคนปกติทั่วไปค่ะ  แต่หากมีอาการท้อแท้ อย่กฆ่าตัวตาย ทำอะไรที้เคยสนุกก็ไม่สนุกสนาน อาจจะสงสัยภาวะซึมเศร้าได้ค่ะ
โรคซึมเศร้ามักมีอาการท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต ไม่อยากทำอะไร/นอนมาก/หรือนอนไม่หลับเลย ทำสิ่งที่เคยทำแล้วสนุกแต่ปัจจุบันทำแล้วไม่สนุกแบบเดิม อยากฆ่าตัวตาย ซึ่งสามารถเข้าได้กับอาการโรคซึมเศร้า 
โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน ให้คะแนนแต่ละข้อดังนี้  
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน  
ลักษณะอาการ   
1.เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร   
2.ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้   
3.หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป   
4.เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย   
5.เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา   
6.รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง   
7.ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย   
8.ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้   
9.คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า  
หากคะแนน เกิน 7คะแนน มีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้า  
หมออยากให้ไปพบจิตแพทย์ใกล้บ้านเพื่อขอคำแนะนำและการปรับยาต้านเศร้าเพื่อแก้ไขความผิดปกติของสารสื่อประสาทให้ดีขึ้นค่ะ
หากต้องการคำปรึกษาอาจจะลองปรึกษาครอบครัว คนสนิทที่ไว้ใจได้ จิตแพทย์ใกล้บ้านหรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323

สวัสดีครับ
จากอาการข้างต้นนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือค่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมให้แน่ชัดอีกครั้งก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ในระหว่างนี้หมออยากให้คุณได้หากิจกรรมที่ตนเองชอบทำเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่เฉยเพราะจะทำให้เกิดอารมณ์เศร้าที่มากขึ้นได้ และก็อาจหาคนที่ไว่ใจได้สักคนเพื่อพูดคุยระบายความรู้สึกที่อยู่ภายในใจออกมาบ้างครับ และถ้าหากต้องการคำแนะนำหรือต้องการปรึกษาอาการในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อนไปพบแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ

ถึงแม้จะมีอายุน้อยกว่า 18 ปี ก็สามารถไปพบจิตแพทย์ด้วยตนเองได้ครับ

หมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์ในโรงพยาบาลที่สะดวกดูก่อนครับ เพื่อที่จะได้ประเมินอาการและเริ่มให้การรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

สามารถไปได้ค่ะ แต่ว่าการรักษาบางส่วนอาจจะต้องนำผู้ปกครองไปด้วย เช่น การเจาะเลือดตรวจเกลือแร่ ค่าไตก่อนการรับประทานยาค่ะ การปรึกษาอาจไปเองได้แต่หากมีการเจาะเลือดหรือการทำหัตถการอื่นๆอาจจะต้องมีผู้ปกครองร่วมพูดคุยด้วยค่ะ

เพื่อให้ไม่มีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายหมอแนะนำให้เริ่มจากการไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาอยู่ก่อนครับเพราะจะช่วยให้สามารถรักษาได้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และถ้าหากในโรงพยาบาลที่ตนเองมีสิทธิการรักษาอยู่ไม่มีจิตแพทย์ก็สามารถขอให้ทางโรงพยาบาลออกหนังสือส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ประจำอยู่ได้ครับเพราะจะช่วยให้สามารถรักษาได้ฟรีเช่นกัน

แต่ถ้าหากไม่ได้ไปตรวจในโรงพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ที่ประมาณ 500-1000 บาทสำหรับโรงพยาบาลรัฐ และสูงกว่านี้ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนครับ

ค่าใช้จ่ายตามสิทธิบัตรค่ะ ถ้าหนูใช้บัตร30บาทก็เสียตามบัตรค่ะแต่ถ้าใช้สิทธิเบิกตรงให้นำบัตรประชาชนไปด้วยนะคะ
แนะนำไป รพ ใกล้บ้านตามสิทธิก่อนค่ะ เพื่อให้ได้วินิจฉัยเบื้องต้นก่อน

อาจเป็นความผิดปกติของการหลั่งสารเคมีในสมอง ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคทางด้านอารมณ์ อย่างซึมเศร้าได้ค่ะ ในกรณีที่มีอาการจนกระทบต่อพฤติกรรมการกิน การนอน การใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำพบจิตแพทย์ เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมดีกว่านะคะ