ไปตรวจเลือดเพือเช็คHIV ผมเสี่ยงวันที่ 20 แล้วผมให้คนที่ผมเสี่ยงไปตรวจคือไปตรวจครั้งแรก 22ตค61ครับแล้วผลเป็นลบ แล้วผ่านไป 23วัน ไปตรวจอีกวันที่ 14พย61 ผลก็เป็นลบ คือถ้าตรวจตอนนี้ไม่มีเชื้อhiv คือ ก่อนหน้า20ตคเขาก็ไม่มีเชื้อใช่ไหมครับ

สวัสดีครับ
การตรวจหาการติดเชื้อ HIV นั้นจะให้ผลตรวจที่แม่นยำได้มากที่สุดต่อเมื่อตรวจห่างจากการรับความเสี่ยงมาอย่างน้อย 3 เดือน(90 วัน) ครับ ในกรณีที่ตรวจห่างจากการรับความเสี่ยงมาประมาณ 1 เดือนจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 95% เท่านั้น

นั่นหมายความว่า ถ้าตรวจหาการติดเชื้อ HIV ในวันที่ 14 พฤศจิกายน แล้วผลเป็นลบจะเป็นการบอกว่าไม่มีการติดเชื้อ HIV ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 16 สิงหาคม แต่จะยังมีโอกาสประมาณ 5% ที่จะมีการติดเชื้อมาหลังวันที่ 16 สิงหาคมแต่ตรวจไม่พบการติดเชื้อครับ

การตรวจด้วยวิธี NAT เป็นการตรวจหาการติดเชื้อ HIV ที่มีความไวสูงกว่าวิธีแบบดั้งเดิม ทำให้ “เริ่ม” ตรวจพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่ 14 วันหลังการติดเชื้อ แต่ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่จะตรวจพบการติดเชื้อด้วยวิธี NAT ภายใน 14 วันครับ

ถึงแม้จะตรวจด้วยวิธี NAT ก็ยังแนะนำให้ตรวจยืนยันผลที่ 3 เดือนอยู่เพื่อให้มั่นใจในผลตรวจได้ 99.9% ครับ

แต่สาเหตุที่แนะนำให้เริ่มตรวจที่ 14 วันเป็นเพราะว่าถ้าหากตรวจพบการติดเชื้อเร็วก็จะได้เริ่มการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆครับ

การติดเชื้อ HIV นั้นไม่มีอาการใดที่จำเพาะต่อตัวโรคครับ ต้องอาศัยการตรวจเลือดในการวินิจฉัยเท่านั้น

อาการปวดศีรษะเองก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งความเครียดก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

หมอแนะนำว่าให้หากิจกรรมทำให้ตนเองผ่อนคลาย พยายามรับประทานอาหาร และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันและลดความเครียดความกังวลที่เกิดขึ้นก่อน

ส่วนเรื่อง HIV นั้นให้เชื่อตามผลเลือดที่ตรวจได้เป็นหลัก ซึ่งก็แนะนำให้ไปตรวจซ้ำอีกครั้งที่เวลา 90 วัน หรือ ประมาณ 3 เดือนหลังรับความเสี่ยงครับ