February 21, 2019 20:47
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่รู้สึกไม่มีความสุข ความอยากที่จะทำสิ่งต่างๆหายไป รู้สึกว่างเปล่า และมีความคิดอยากตายนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อย เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
โดยในระหว่างนี้ก็อาจลองให้โอกาสตัวเองได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ หากิจกรรมที่ชอบมาทำ หาเพื่อนมาคุยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือช่วยรับฟังความรู้สึกไม่ดีที่เกิดขึ้น ก็อาจเป็นตัวช่วยในการบรรเทาอาการได้ส่วนหนึ่งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับสวัสดีครับ
จากที่เล่ามาก็จะเห็นได้ว่าอาการบางส่วนของคุณก็จะตรงกับเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้านะครับ ซึ่งอาการเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความเครียดที่สะสม หรือเกิดจากเหตุการณ์ในชีวิตอะไรบางอย่าง ซึ่งจากที่คุณเล่ามาในเรื่องของอาการหมดไฟตรงนี้ก็อาจจะเกิดได้จากสิ่งที่ทำอยู่อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของตนเองก็เป็นได้ครับ ซึ่งเหตุผลตรงนี้จะมีด้วยกันหลากหลายมากและต้องอาศัยการพูดคุยกันจึงจะทำให้ได้เห็นที่มาที่ไปของอาการเหล่านี้ได้นะครับ โดยในเบื้องต้นก็อยากจะแนะนำเช่นเดียวกับคุณหมอในเรื่องของการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินเพื่อที่จะหาวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปนะครับไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรับประทานยาหรือว่าการทำจิตบำบัดก็ตาม
นอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกันนะครับ การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งหากคุณมีกิจกรรมเหล่านี้ทำเป็นกิจวัตรแล้ว อารมณ์โดยรวมหรือความสนใจของคุณก็อาจจะกลับมาได้ หากมีการทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจวัตรนะครับ
สุดท้ายนี้หากว่าความเศร้าหรืออาการอื่นๆตรงนี้เริ่มส่งผลให้คุณดำเนินชีวิตประจำวันได้ไม่ดีเท่าที่หวังไว้ แต่คุณยังไม่ต้องการที่จะเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ลองติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่รับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเครียด และการดูแลสุขภาพจิต ตลอด 24 ชม. ได้ครับ ถึงแม้ว่าอยากจะสนับสนุนให้ไปหาจิตแพทย์มากกว่าก็ตาม
ดังนั้นหากมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เบื้องต้นลองสำรวจอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น
ซึมเศร้าสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้โดยการใช้ยา เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมองให้หลั่งปกติ จะทำให้เราสามารถควบคุมความคิด อารมณ์และแสดงพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม ปรับตัวกับปัญหาได้มากขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอ ปีนี้หนูอายุเข้า 20 แล้วค่ะ สังเกตตัวเองมานานมาก ว่ามีอาการเหล่านี้ คือ หนูไม่มีความสุข อะไรที่ชอบก็หมดไฟในการทำสิ่งนั้น รู้สึกอยากอยู่คนเดียวไม่อยากสุงสิงกับใคร รู้สึกเฉยกับทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเศร้าแค่ไหนก็เฉย จนรู้สึกว่ามันว่างเปล่าค่ะ ในใจมันว่างเปล่าและมีคิดถึงเรื่องความตายด้วยค่ะ หนูควรทำอย่างไรดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)