December 07, 2018 09:49
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
1.การติดเชื้อHIVนั้น มักเกิดได้จากการสัมผัสระหว่างอวัยวะเพศชายและหญิงผ่านช่องคลอดและทวารหนักโดยไม่ป้องกัน หรือมีแผลที่อวัยวะเพศจะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายอีกฝ่ายได้ การใช้มือช่วย แม้อาจเปื้อนน้ำหล่อลื่นบ้างนั้นโอกาสติดเชื้อน้อยครับ เนื่องจากเชื้อไวรัสHIVอยู่นอกร่างกายได้ไม่นานครับ
2.หากมีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงกับอีกคนไม่ติดเชื้อครับ หากใช้ถุงยางถูกวิธีไม่หลุดหรือฉีกขาด หรือหากไม่ป้องกันโอกาสติดเชื้อมีได้บ้างแต่น้อยครับ จากที่กล่าวข้างต้น
3.การทานยาป้องกันหลังสัมผัสเชื้อ จะต้องทานนาน28วัน วันละ1ครั้ง มีผลข้างเคียงจากยาได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว สามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากกว่า90%ครับ และยานี้ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อในครั้งต่อไปได้ หากมีความเสี่ยงอีก
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์ (นพ.)
สวัสดีครับ
ถ้าหากมีการใช้ถุงยางอนามัยตลอดช่วงที่มีการสอดใส่โอกาสที่จะติดเชื้อ HIV ก็มีต่ำมากครับ และหลังจากที่มีการถอดถุงยางอนามัยและมีการใช้มือช่วยแทนนั้นถึงแม้จะมีน้ำหล่อลื่นของอีกฝ่ายติดอยู่ก็จะยังมีโอกาสติดเชื้อได้น้อยเช่นกัน เนื่องจากปริมาณน้ำหล่อลื่นและเชื้อ HIV มักน้อยกว่าการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปสัมผัสน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดโดยตรง
อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนว่ามีโอกาสติดเชื้อ HIV ได้เท่าไหร่ครับ มีเพียงแต่โอกาสติดเชื้อ HIV ที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0.38% ถ้าหากเป็นในกรณีนี้ความเสี่ยงก็จะมีน้อยกว่านี้ครับ และถ้าหากได้รับประทานยา PREP ไปแล้วความเสี่ยงดังกล่าวก็จะลดลงอีกประมาณ 90% ครับ
แต่ถ้าหากหลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงบริการคุณได้รับเชื้อ HIV มาจริง การมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นต่อก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อ HIV ติดต่อไปสู่คนอื่นได้ครับ