สาเหตุของไมเกรน

เผยแพร่ครั้งแรก 10 มิ.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
สาเหตุของไมเกรน

สาเหตุที่แน่ชัดของไมเกรนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คาดคิดว่าเป็นผลมาจากการทำงานของสมองที่ผิดปกติไปชั่วคราว ซึ่งส่งผลต่อการส่งสัญญาณประสาท สารเคมีและหลอดเลือดภายในสมอง

ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าอะไรคือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว แต่อาจเป็นไปได้ว่ายีนของคุณทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะมีอาการของไมเกรนจากสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการบางอย่างได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ปัจจัยกระตุ้นให้มีอาการของไมเกรน

มีปัจจัยหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้มีอาการของไมเกรน ได้แก่ ฮอร์โมน, อารมณ์, สภาพร่างกาย, อาหาร, สภาพแวดล้อม และการใช้ยาบางชนิด

ปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้มีความแตกต่างกันแล้วแต่คน การบันทึกไดอารี่อาจช่วยให้คุณรู้ได้ว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการ แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการอย่างแท้จริง

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ผู้หญิงบางรายจะมีอาการปวดศีรษะไมเกรนระหว่างช่วงเวลาของการมีประจำเดือน นั่นเพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนระหว่างมีประจำเดือน เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen)

ไมเกรนชนิดนี้มักเกิดขึ้นระหว่าง 2 วันก่อนมีประจำเดือนไปจนถึง 3 วันหลังมีประจำเดือน ผู้หญิงบางรายจะมีอาการของไมเกรนเฉพาะช่วงเวลาดังกล่าว เราเรียกว่า pure menstrual migraine อย่างไรก็ตามผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการในช่วงเวลาอื่นๆ ด้วย ซึ่งเรียกว่า menstrual related migraine

ผู้หญิงหลายรายพบว่าการมีอาการไมเกรนของพวกเขาดีขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (menopause) แม้ว่าบางครั้งวัยหมดประจำเดือนอาจกระตุ้นให้มีอาการปวดศีรษะไมเกรนหรือทำให้อาการปวดศีรษะไมเกรนแย่ลงได้ในผู้หญิงบางรายก็ตาม

ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนด้านอารมณ์

ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนด้านร่างกาย

  • เหนื่อย อ่อนเพลีย
  • คุณภาพการนอนหลับไม่ดี
  • การทำงานเป็นกะ
  • การมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม
  • ความตึงที่คอหรือหัวไหล่
  • อาการอ่อนเพลียจากการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นเวลานาน (Jet lag)
  • ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycaemia)
  • การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง (หากคุณไม่เคยทำมันมาก่อน)

ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนด้านอาหาร

  • การข้ามมื้ออาหาร รับประทานอาหารช้า หรือรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
  • การขาดน้ำ
  • แอลกอฮอล์
  • สารปรุงแต่งอาหารที่มีส่วนประกอบของไทรามีน (tyramine)
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
  • อาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต และชีส

ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนด้านสิ่งแวดล้อม

  • แสงจ้า
  • หน้าจอที่มีการเคลื่อนไหวไปมา เช่น หน้าจอโทรทัศน์ หน้าจอคอมพิวเตอร์
  • การสูบบุหรี่ หรือ อยู่ในห้องที่มีควันบุหรี่
  • เสียงดัง
  • การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น การเปลี่ยนแปลงของความชื้น หรืออุณหภูมิหนาวจัด
  • กลิ่นรุนแรง
  • อากาศไม่ถ่ายเท อากาศอบอ้าว

การใช้ยาบางชนิดกระตุ้นให้มีอาการไมเกรน

  • ยานอนหลับบางชนิด
  • ยาคุมกำเนิดรับประทานชนิดฮอร์โมนรวม (combined contraceptive pill)
  • ฮอร์โมนทดแทน (hormone replacement therapy; HRT) ฮอร์โมนนี้บางครั้งถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการที่สัมพันธ์กับการหมดประจำเดือน

การวินิจฉัยไมเกรน

ยังไม่มีวิธีการตรวจเฉพาะเพื่อการวินิจฉัยไมเกรน เพื่อให้การวินิจฉัยไมเกรนมีความแม่นยำ แพทย์จะวิเคราะห์รูปแบบการมีอาการปวดศีรษะไมเกรนซ้ำของคุณร่วมกับอาการที่คุณเป็นร่วมด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การเกิดไมเกรนไม่สามารถคาดเดาได้ บางครั้งก็เกิดขึ้นโดยไม่มีอาการอื่นๆ การวินิจฉัยอย่างแม่นยำบางครั้งอาจต้องใช้เวลา

การไปพบแพทย์เพื่อตรวจไมเกรน

เมื่อไปพบแพทย์เป็นครั้งแรก แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและตรวจการมองเห็น การทำงานประสานงานกันของร่างกาย การตอบสนองต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งการตรวจเหล่านี้จะช่วยแยกโรคบางชนิดซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นออกไปได้

แพทย์อาจถามเกี่ยวกับอาการปวดศีรษะของคุณ ถ้าคุณมีอาการปวดศีรษะดังนี้:

  • ปวดศีรษะที่ด้านใดด้านหนึ่ง
  • ปวดเป็นจังหวะ
  • อาการปวดรุนแรงจนกระทบต่อการทำกิจกรรมประจำวัน
  • อาการปวดแย่ลงเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย
  • มีอาการปวดร่วมกับคลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการปวดร่วมกับมีความไวต่อเสียงรบกวนและแสง (เสียงและแสงทำให้อาการแย่ลง)

ไมเกรนไดอารี่

เพื่อช่วยในการวินิจฉัย สิ่งที่เป็นประโยชน์คือการบันทึกไดอารี่ไมเกรนของคุณเป็นเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยจดบันทึกข้อมูลดังนี้:

  • วันที่มีอาการ
  • เวลาที่มีอาการ
  • คุณกำลังทำอะไรอยู่ขณะที่เริ่มมีอาการไมเกรน
  • มีอาการของไมเกรนนานเพียงใด
  • มีอาการอะไรบ้าง
  • ได้รับประทานยาอะไรหรือไม่ระหว่างที่มีอาการ

การรับประทานยาแก้ปวดมากเกินไปเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมไมเกรนจึงรักษาได้ยากขึ้น เราเรียกว่า โรคปวดศีรษะเหตุใช้ยาเกิน (analgesic overuse headache)

ดังนั้นการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาแก้ปวดจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ได้แก่ ยาที่ใช้คือยาอะไร ใช้ยาบ่อยแค่ไหน คุณไม่ควรรับประทานยาแก้ปวดมากกว่า 10 วันในแต่ละเดือนเป็นระยะเวลานาน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

สำหรับผู้หญิงการบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรอบประจำเดือนอาจเป็นประโยชน์ ได้แก่ เริ่มมีรอบประจำเดือนเมื่อไร ซึ่งจะช่วยให้แพทย์หาได้ว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นบ้าง

การส่งต่อไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

แพทย์ที่ดูแลรักษาคุณอาจตัดสินใจส่งต่อคุณไปรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา (แพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคทางสมองและระบบประสาท) เพื่อรับการตรวจและรักษาเพิ่มเติม ในกรณีดังนี้:

  • การวินิจฉัยโรคไม่ชัดเจน
  • คุณมีอาการของไมเกรนตั้งแต่ 15 วันขึ้นไปใน 1 หนึ่ง (ไมเกรนเรื้อรัง)
  • การรักษาไม่สามารถช่วยควบคุมอาการให้คุณได้

https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/brain-nerves-and-spinal-cord/migraine#causes

https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/brain-nerves-and-spinal-cord/migraine#diagnosis


19 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Migraines: Symptoms, treatments, and causes. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/148373)
What Causes Migraine and Chronic Migraine?. Healthline. (https://www.healthline.com/health/migraine/causes-of-chronic-migraine)
Migraine - Causes. NHS (National Health Service). (https://www.nhs.uk/conditions/migraine/causes/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)