สวัสดีค่ะ คือว่าเริ่มมีอาการท้องอืด ไม่อยากอาหาร ตั้งแต่เมื่อวันที่6ค่ะ หลังกินนมขณะท้องว่างในวันที่6 แบบเป็นมื้อเช้าค่ะ แล้วจากนั้นเมื่อวานตอนเช้ามืดก็เกิดการถ่ายเหลวเป็นน้ำติดต่อกัน 10 กว่าครั้ง ตั้งแต่เช้ายันมืดเลยค่ะ มีอาเจียน 1 ครั้ง.คล้ายอาหารไม่ย่อยค่ะ ทานยาค่าเชื้อไปในตอนเย็น ทานเกลือแร่ด้วยค่ะ แล้ววันนี้คือเช้าของวันที่8 ก็มีอาการปวดท้องแล้วถ่ายเหลวเป็นน้ำค่ะ แล้วประจำเดือนไม่มา2เดือนแล้วค่ะ อายุ 18 ไม่เคยมีsexค่ะ เลยอยากถามว่าเราเป็นอะไรกันแน่คะ ตอนนี้รู้สึกกลัวมากค่ะ ไม่สบายท้องเลย

สวัสดีค่ะ จากประวัติมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาเจียน หมอคิดถึงอาการท้องเสียแบบเฉียบพลันจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารหรืออาหารเป็นพิษค่ะ มักเกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อปรสิต โดยส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 3-7 วัน นอกจากนี้แล้วอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น การแพ้อาหาร โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ หรือบางรายเกิดจากผลข้างเคียงของยา เป็นต้น สำหรับการดูแลตนเองเบื้องต้นสำหรับอาการท้องเสียเฉียบพลันแบบไม่รุนแรงควรดื่มสารละลายเกลือแร่ ORS จิบบ่อยๆ โดยให้ผสมเกลือแร่ ORS กับน้ำต้มสุก 250 ml ทาน 1 แก้วต่อการถ่ายเหลว 1 ครั้ง หรือตามความกระหายน้ำของผู้ป่วย เพื่อป้องกันและรักษาอาการขาดน้ำ และรักษาตามอาการทานยาแก้ปวดท้อง แต่ไม่ควรทานยาหยุดถ่าย และถ้าถ่ายเหลวมากกว่า 6 ครั้ง ใน24 ชั่วโมง ถ่ายมากจนมีอาการปากแห้ง ปัสสาวะออกน้อย ซึม สับสน มีไข้ ปวดท้องรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด ให้รีบไปพบแพทย์ค่ะ กรณีไม่เคยมีเพศสัมพันธ์แต่ประจำเดือนไม่มาอาจคิดถึงได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น ระดับฮอร์โมนผิดปกติ เกิดความเครียด น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป ขาดสารอาหาร ออกกำลังหายหักโหมจนเกินไป ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome) โรคเรื้อรังบางชนิด เป็นต้นค่ะ ยังไงถ้าประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุประจำเดือนขาดค่ะ