February 04, 2019 07:06
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกและไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยนั้นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยเองก็ยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%
ดังนั้นเมื่อมีการขาดประจำเดือนไปในกรณีนี้ก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็จะมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุก่อน โดยเฉพาะถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ หากใช้ไม่ถูกวิธี การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ค่ะ ขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องหรือไม่ กล่าวคือ ไม่ควรนำอวัยวะเพศชายสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงก่อนสวมถุงยางค่ะ เนื่องจากในน้ำหล่อลื่นเพศชาย อาจมีตัวอสุจิปนเปื้อนอยู่ค่ะ และถุงยางอนามัย ต้องไม่รั่ว ไม่ฉีกขาดค่ะ
ถ้าใช้อย่างถูกต้องโอกาสการตั้งครรภ์เหลือเพียงประมาณ2%ค่ะ
ดังนั้น ถ้าคนไข้ใช้อย่างถุกต้อง ถุงยางไม่รั่ว ไม่ขาด โอกาสการตั้งครรภฺ จึงน้อยมากๆ คนไข้สบายใจได้ค่ะ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง คใรไปพบแพทยืดพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คุณหมอ หนูอยากทราบว่า การที่ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน 3 วัน มีสิทธิ์ท้องไหมค่ะ แต่มีอาการตกขาวสีเหมือกๆ ออกเหลืองเขียว ประมาณนี้ค่ะ มีอาการปวดท้องน้อยเป็นบางช่วงค่ะ มีเพศสัมพันธ์กับเกือบทุกวันค่ะ ใส่ถุงเป็นบางครั้งค่ะ ไม่ไม่เคยหลั่งในค่ะ (อันนี้ฝ่ายชายมั่นใจ 100%) ค่ะ และอีกอย่างค่ะ ประจำเดือนจะมาควบเดือนค่ะ เช่น วันที่ 30 31 และ 1 2 ค่ะ เป็นแบบนี้มาประมาณ 2 ถึง 3 เดือนได้ค้ะ แต่ล่าสุดประจำเดือนไม่มา มกราคม จนถึงวันนี้ ก้ยังไม่มาค่ะ เกิกจากสาเหตุใดค่ะ และมีสิทธิ์ท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)