August 23, 2018 17:13
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
ส่วนมากหากมีอาการชาลิ้นแสดงว่าการรัยรสอาจจะไม่ดี ซึ่งการรับรสจะใช้เส้นประสาทคู่ที่5และ7ซึ่งหากเป็นstroke ซึ่งเป็นโรคของหลอดเลือดสมอง มักต้องมีอาการของเส้นประสาทคู่นั้นๆร่วมด้วย เช่น หน้าเบี้ยว เป็นต้นค่ะ จากอาการจึงทำให้แพทย์ที่ตรวจไม่นึกถึงภาวะหลอดเลือดสมองค่ะ ซึ่งหากไปพบแพทย์ท่านอื่นๆ ก็อาจจะได้วินิจฉัยแบบนี้เช่นกันเนื่องจากไม่มีลักษณะ neurodeficitที่ชัดเจน แต่หากอยากทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองสามารถทำได้ค่ะ ที่โรงพยาบาลเอกชนราคาประมาณ4000-5000บาท แต่หากสงสัยความผิดปกติในสมองเฉพาะเส้นประสาทถ้าอยากทำ แนะนำให้ขอทำMRIที่ รพ เอกชนได้โดยเสียเงินเองประมาณ12,000บาทค่ะ ซึ่งอาจจะพบหรือไม่พบก็ได้ แต่หากกังวลมากแนะนำไปโรงพยาบาลเอกชนเพื่อขอทำได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณแม่ของหนูท่านมีอาการชาที่ปลายลิ้นมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วค่ะ ท่านมีโรคประจำตัวคือ ความดันและไขมันสูง หนูกลัวว่าท่านจะเป็น stroke เพราะท่านมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อโรคนี้ หนูจึงพาท่านไปตรวจกับแพทย์ที่รพ. ระหว่างที่ตรวจคุณหมอถามว่าทานอาหารรสเผ็ดไหม คุณแม่ตอบว่าเผ็ดค่ะ เมื่อก่อนทานเผ็ด แต่ปัจจุบันค่อย ๆ ลดเผ็ดลงแล้วค่ะ คุณหมอจึงให้เหตุผลว่า การทานเผ็ดบ่อย ๆ จะทำให้ระบบประสาทที่ลิ้นถูกทำลาย และคุณหมอก็ให้ยามาทาที่ปลายลิ้น และให้วิตามินมาทาน และแนะนำให้ทานจืด ๆ พักผ่อนเยอะ ๆ แต่ทำไมคุณหมอไม่ตรวจมากกว่านี้ หรือ ถามมากกว่านี้ หนูอยากให้ละเอียดกว่านี้ หนูกับคุณแม่ก็กลับมาปฏิบัติตามคุณหมอแนะนำ แต่พอ 1 เดือนผ่านไป อาการคุณแม่ก็ยังมีอยู่ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น หนูเลยพาไปตรวจที่คลินิกแถวบ้าน ลองเปลี่ยนหมอดูเผื่อจะได้เหตุผลมากกว่านี้ และคุณหมออีกท่านก็วินิจฉัยว่าทานรสเผ็ด พร้อมให้ยามาทาน เป็นกลุ่มวิตามินอีกเช่นเดียวกัน นี่ก็จะครบ 2 เดือนแล้ว แต่อาการก็ยังคงที่ หนูจึงอยากมาตั้งคำถามกับคุณหมอในที่นี้ คือ หนูกังวล และกลัวคุณแม่จะเป็นโรคstroke มากค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)