March 18, 2019 15:44
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
อาจจะเป็นอาการของภาวะซึมเศร้าได้ครับ เบื้องต้นแนะนำให้ หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้ครับ โดยแบบประเมินโรคซึมเศร้ามีดังนี้ครับ จะมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการขึ้นไป โดยอาการมีดังนี้ 1. อารมณ์ซึมเศร้า (เด็กและวัยรุ่นอาจจะเป็นอารมณ์หงุดหงิดแทนได้ครับ) 2. มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงมาก 3. นํ้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (โดยเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น 4. กระวนกระวาย หรือดูเชื่องช้าลง 5.นอนไม่หลับ/หลับมากไป 6. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงแรง 7. มีสมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจ 8.รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า 9. มีความคิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย จะต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และควรมีอาการเหล่านี้แทบจะตลอดเวลาครับ ดีที่สุดน่าจะไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทางด้านจิตใจ(จิตแพทย์)โดยเฉพาะครับ เพราะจะได้วินิจฉัยแยกโรคอื่นๆที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ภาวะเศร้าการปรับตัวไม่ได้จากปัญหาที่มากระทบจิตใจ หรือ ภาวะวิตกกังวลครับ และคุณหมอจิตแพทย์จะชำนาญในการรักษาและให้ยา อีกทั้งจะได้ให้คำแนะนำและติดตามอาการครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ ในเบื้องต้นอาการเหล่านี้เท่าที่เล่ามา อาจจะค่อนข้างตรงกับในเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้าครับ ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นก็มีได้ค่อนข้างหลากหลายประการมากไม่ว่าจะเรื่องของสารเคมีในสมอง ความเครียดในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ ร่างกายก็จะต้องมีการดูแลอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้องด้วย ดังนั้นก็อาจจะเป็นงานที่หนักขึ้นสำหรับร่างกายในการพยายามปรับตัวนะครับ........ซึ่งอาการเหล่านี้อย่างที่กล่าวไว้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ตรงนี้อาจจะเป็นสัญญาณนะครับว่าคุณควรที่จะได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ตรงนี้อาจจะแนะนำให้ลองพูดคุยกับคุณหมอที่คุณฝากท้องไว้นะครับเผื่อคุณหมอจะสามารถทำการ refer ไปยังคุณหมอจิตแพทย์ในโรงพยาบาลเดียวกันได้ แต่หากว่าในโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ไม่มีจิตแพทย์ ตรงนี้อาจจะลองดูนะครับว่าสามารถไปพบจิตแพทย์ได้ที่ไหนบ้าง และต้องไม่ลืมแจ้งจิตแพทย์นะครับว่าตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่เนื่องจากหากจิตแพทย์พิจารณาว่าอาจจะต้องมีการทานยาในการช่วยปรับอารมณ์ จิตแพทย์จะได้คำนึงถึงเรื่องยาจิตเวชที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ครับ ........... ขอเพิ่มเติมคร่าวๆนะครับ โดยนอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญแล้ว ในเรื่องของกิจกรรมอื่นๆ ก็สามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง อาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง พยายามทานอาหารให้ครบหมู่ ทานของอร่อยๆ ตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้คุณกลับมาควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะทำให้สภาพจิตใจและความคิดของคุณมีการมองตนเองที่ดีขึ้นได้ครับ..........สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ หากคุณมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่มีอาการก่อนตั้งครรภ์ และไม่ได้รับการรักษา พอตั้งครรภ์ฮอร์โมนเปลี่ยน ส่งผลให้สภาวะทางอารมณ์แปรปรวน กระตุ้นให้อาการที่เป็นอยู่เดิมรุนแรงมากขึ้นได้ค่ะ ลองทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนนะคะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน มี 1-7วัน 1 คะแนน มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน ทุกวัน 3 คะแนน ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร 2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้ 3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป 4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย 5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา 6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง 7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย 8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้ 9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้าได้ค่ะ ในกรณีนี้แนะนำพบจิตแพทย์นะคะ ให้คุณหมอประเมินอาการ วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดและรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม หากมีอาการรุนแรงมากคุรหมอจะใช้ยาในการรักษา แต่ต้องระมัดระวังและต้องประเมินความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ด้วยนะคะ
ในกรณีนี้การรักษาต้องอยู่ในการดูแลของจิตแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งคุณหมออาจมีการนัดติดตามอาการถี่หน่อย ตรงนี้คุณแม่ควรคำนึงเรื่องการเดินทางที่สะดวกด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีอาการร้องไห้บ่อย นอนไม่หลับ คิดมาก คิดว่าอยากตายตลอดเวลา ไม่พบเจอผู้คน อยู่แค่ในห้อง นอนไม่เคยหลับ ถึงนอนหลับก็จะสะดุ้งตื่น อาการแบบนี้เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามั้ยคะ #ตั้งท้องได้เกือบ5เดือนแล้ว แต่อาการแบบนี้เป็นก่อนตั้งท้อง แต่พอท้องอาการจะหรักขึ้นคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)