December 08, 2018 11:59
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการทางจิตหลักๆ แล้วจะมีอาการผิดปกติของความคิด คิดนอกเหนือความจริง หวาดระแวงโดยไม่มีมูลความจริง การรับรู้ผิดปกติ คือ มีประสาทหลอน โดยเฉพาะหูแว่ว ภาพหลอน มีพฤติกรรมผิดปกติ คือ การกิน การนอนผิดปกติ แยกตัว พูดคนเดียว ไม่ใส่ใจเรื่องการดูแลตัวเอง และมีอารมณ์ผิดปกติ เช่น ซึมเศร้า ฉุนเฉียวก้าวร้าว
สำหรับอาการที่คุณเล่ามาอาจไม่ถึงขั้นอาการทางจิต(จิตเภท) แต่อาจเป็นปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติทางบุคลิกภาพ การปรับตัว หรืออาจเป็นโรคทางอารมณ์ อย่างซึมเศร้าค่ะ
ในกรณีที่เคยรับการรักษามาก่อน แล้วหมอสั่งหยุดยา ระหว่างหยุดยาตัวโรคมีโอกาสกำเริบซ้ำได้ ดังนั้นในกรณีนี้แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ เริ่มการรักษาใหม่นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับความทุกข์ใจ และรู้สึกโดดเดี่ยวเนื่องจากว่าคุณไม่มีเพื่อน หรือเพื่อนที่คุณเคยมีก็เกิดการผิดใจกันจนคุณกับเขาต้องผิดใจกันและไม่ได้ติดต่อกันต่อ คุณรู้สึกท้อแท้ และไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงทำแบบที่คนอื่นทำไม่ได้นะครับ
อย่างไรก็ตามในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ผมเข้าใจว่าการมีเพื่อนเป็นสิ่งที่สำคัญกับคุณมาก เพราะคุณรู้สึกว่าไม่อยากโดดเดี่ยวและต้องการที่จะมีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือตนเอง ที่ใช้เวลาด้วยกัน ทำให้คุณรู้สึกว่ามีคนที่สามารถพูดคุยด้วยและช่วยเหลือคุณได้เหมือนอย่างที่คนอื่นๆมี ซึ่งตรงจุดนี้ผมคิดว่าการเข้ารับการปรึกษาจากนักจิตวิทยาจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจในเรื่องของความสัมพันธ์และการค้นหาสาเหตุหรือคำตอบของคำถามหลายๆคำถามที่คุณมีนะครับ ซึ่งการเข้ารับบริการจากนักจิตวิทยา หากคุณกำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัยบางแห่งจะมีบริการเหล่านี้ให้นิสิตนักศึกษาครับ นอกจากนั้นแล้ว โรงพยาบาลหรือคลินิกบางแห่งก็จะมีบริการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเช่นกันครับ
ในส่วนของโรคจิตเภทนั้น อาการหลักๆก็มักจะเป็นเรื่องการได้ยินเสียง หรือเห็นภาพหลอน ความคิดหรือความเชื่อที่หลุดออกไปจากความเป็นจริงครับ โดยหากคุณรู้สึกว่าตนเองจะมีอาการเหล่านี้ การเข้าพบจิตแพทย์จะทำให้คุณได้รับการประเมินและวินิจฉัยโดยละเอียดและทำให้คุณได้รับคำตอบที่แน่ชัดครับ ในส่วนของประวัติการเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ คุณเองก็อาจจะต้องรับรู้นะครับว่าตนเองได้รับการวินิจฉัยด้วยโรคอะไร และยาทางจิตเวชที่ทานนั้นจะช่วยในเรื่องอะไร
สุดท้ายนี้ขอชื่นชมนะครับที่คุณต้องการที่จะกลับไปเรียนถึงแม้ว่าเคยเจอความยากลำบาก และการที่คุณมีอุปนิสัยเป็นคนเก็บตัวนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผิดแปลกครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมมีอาการเข้าข่ายอาการทางจิตมั้ยครับ (จิตเวช) เมื่อตอนปี 2555 ผมมีอารมณ์ที่ร้อนปาข้าวปาของเผาเสื้อผ้าเผาของ ผู้ปกครองเคยพาไปหาหมอ แผนกจิตเวชเมื่อประมาณปี 2556 ก็ได้รับการรักษาได้ยากินตลอดจนเรียน ม4-6 จบ มาช่วงปี 2560 หมอก็สั่งให้หยุดกินถาวร พอหยุดกินผมก็มีอาการ อารมณ์แปรปรวนแบบควบคุมไม่ได้ จนได้แตกกับเพื่อนแล้วเพื่อนคนนั้นมันก็ลงลึกไปที่ใจทำให้ผมใจคอไม่ดีไม่เปนสุขทำให้ผมมองเพื่อนแล้วทุกข์ใจตอนนั้นผมเลยซึมๆ อยู่คนเดียวสุดท้ายก็ต้องดรอปเรียนไป สำหรับคนอื่นอาจจะปกติแต่สำหรับผมมันยากมากที่จะทำใจได้ ณ ขณะนี้ผมก็กลับมาเรียนแล้วก็มีปัญหากับเพื่อนอีกคนแบบที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เวลาผมไม่มีใครช่วยเหลือผมมองดูเพื่อนคนอื่นเค้าช่วยกันหางานใน ขณะที่ผมไมมีใครเลยผมเลยรู้สึกว่า ผมอยากเลิกเรียนรายวิชานั้นเพราะอาจารย์สั่งให้หางานห้ามซ้ำกัน ผมจะรู้สึกแย่และแย่ลงมากๆ จนนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกับเพื่อนรุ่นน้องผิดกันไปเลย ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมแย่มาก และโดดเดี่ยว แต่ทำไมคนอื่นเขาไม่คิดอะไรหรือไม่สนใจไม่คิดมากทำไมเขาทำได้ ทำไมผมถึงทำไม่ได้ อุปนิสัยส่วนตัวผม คือ ชอบอยู่คนเดียว ไม่ชอบคนหมู่มาก มีโลกส่วนตัวสูง อารมณ์แปรปรวนสลับไปมาแบบคาดการณ์ไม่ได้ ไม่ชอบทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นเพราะผมจะรู้สึกเบื่อๆเศร้าๆทันที อาการแบบนี้ผมเข้าข่ายอาการทางจิตหรือป่าวครับคุณหมอ??
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)