November 14, 2018 20:09
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากสงสัยว่าตนเองจะมีอาการของโรคซึมเศร้าแต่ไม่สามารถขอให้ผู้ปกครองพาไปพบแพทย์ได้นั้น ถึงแม้จะมีอายุแค่ 15 ปีก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการด้วยตนเองได้ครับ
หมอแนะนำให้หาโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อตรวจประเมินอาการดูครับ หรือในอีกทางหนึ่งก็อาจไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลอยู่ได้ครับ เพราะจะช่วยให้สามารถรักษาฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และในกรณีที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาไม่มีจิตแพทย์ก็สามารถขอให้ทางโรงพยาบาลออกหนังสือส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นขอชื่นชมนะครับที่อยู่กับโรคซึมเศร้ามาได้นาน 2 ปีและตั้งใจที่จะเข้ารับการช่วยเหลือด้วยตนเอง สำหรับตัวน้องที่อายุเพียงแค่ 15 ปีแต่ต้องมาเผชิญกับโรคนี้โดยที่คุณพ่อกับคุณแม่คอยให้การสนับสนุนก็นับว่าน้องเป็นคนที่เข้มแข็งมากนะครับ
ในส่วนของการรักษาพยาบาล การเบ้าพบจิตแพทย์ก็ตามคอมเม้นท์ด้านบนของคุณหมอแจ้งไว้นะครับ สำหรับสิทธิในการรักษาสามารถเข้าไปเช็คได้ในลิ้งค์ด้านล่างนี้นะครับ เพื่อที่จะได้รู้ว่าสิทธิการรักษาของตนเองอยู่ในสังกัดโรงพยาบาลหรือคลีนิกไหน
http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
นอกจากนั้นตามโรงพยาบาลจิตเวชใหญ่ๆบางแห่งอย่าง ศรีธัญญาหรือสมเด็จเจ้าพระยาเองก็มีบริการให้พบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาในราคาที่ไม่แพงอยู่ครับ ซึ่งการที่จะไปโรงพยาบาลไหนก็ต้องคำนึงถึงความสะดวกและระยะเวลาในการเดินทางด้วยนะครับ
นอกจากนั้นแล้วในเรื่องของการดูแลตนเองเบื้องต้น อยากให้ตัวน้องเองลองฝืนทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่นการออกกำลังกาย งานอดิเรก หรือกิจกรรมทีทำให้น้องมีความสุขได้ แล้วทำสิ่งเหล่านี้ให้สม่ำเสมอครับ การทานอาหารที่ตนเองชอบ หรือแค่เดินกลับบ้านหรือเดินไปโรงเรียนในทางใหม่ๆก็วสามารถลองทำได้ครับเพียงแค่ให้คำนึงถึงในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และสุดท้ายหากมีความคิดฆ่าตัวตายมากๆ หรืออยากได้ข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น้องสามารถลองใช้ได้ครับ
สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้น้องผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้นะครับ หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถถามได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่เข้าใจ หรือ ไม่ให้ความสำคัญ หนูรู้ว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ หนูสามารถไปพบจิตแพทย์ได้ด้วยตัวเองนะคะ เบื้องต้นคุณหมอจะประเมินอาการ หาสาเหตุและปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้มีอาการแย่ลง หากผู้ปกครองเป็นตัวกระตุ้นที่มีผลต่อการรักษา คุณหมอจะมีวิธีเชิญให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาด้วย แต่หากหนูไม่พร้อม หรือไม่สะดวกก็สามารถแจ้งคุณหมอได้ตามตรงค่ะ
ยังไงควรไปพบจิตแพทย์นะคะ เพราะซึมเศร้าเกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งไม่สมดุล การรักษาด้วยยาและการทำจิตบำบัดจะช่วยให้อาการดีขึ้นและสามารถปรับตัวใช้ชีวิตได้ตามปกตินะคะ พี่เป็นกำลังใจให้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อยากขอคำแนะค่ะ ตอนนี้รู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้ามา2ปีกว่าแล้วค่ะ เริ่มทำร้ายตัวเอง ยิ่งนานเข้าอาการยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆด้วยค่ะ จะทำไงดีคะตอนนี้ก็อายุแค่15ปี บอกพ่อแม่แล้วพวกเขาไม่สนใจกันเลยค่ะ ตอนนี้ก็เรียนอยู่ด้วยตอนนี้มันส่งผลกระทบกับการเรียนของหนูมากๆเลยค่ะ ไม่มีจิตใจจะไปเรียนเลยค่ะ นอนหลับยากขึ้นด้วยทำอะไรก็รู้สึกช้าไปหมดเลยค่ะ หนูพยายามจะฆ่าตัวตายมา3ครั้งแล้วค่ะ หนูควรจะทำยังไงดีคะแบบว่าไม่ต้องพึ่งผู้ปกครองก็รักษากับคุณหมอเองได้ อายุแค่นี้สามารถไปหาหมอเองได้มั้ยคะโดยไม่มีผู้ปกครองไม่อยากให้เค้ามาวุ่นวายมากๆเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)