February 21, 2019 21:21
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการข้างต้นนั้นอ่านดูแล้วน่าจะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าโรคย้ำคิดย้ำทำนะครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
สาเหตุของโรคซึมเศร้านั้นเกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไปจากเดิม ทำให้มีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มีอารมณ์เศร้า มีความติดในแง่ลบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ และไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ได้เกิดจากการแกล้งทำหรือความอ่อนแอครับ ซึ่งถ้าหากได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมองใหม่ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ ไม่ต้องกังวลว่าทางจิตแพทย์จะไม่เข้าใจอาการที่เกิดขึ้น เพราะสาเหตุของอาการเหล่านี้มีคำอธิบายทางการแพทย์อย่างชัดเจนตามที่หมอได้อธิบายไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วลีรักษ์ จันทร (พว.)
ควรปรึกษาจิตเเพทย์นะค่ะ การพบจิตแพทย์ไม่ได้แปลว่าคนเราทุกคนจะเป็นโรคจิต แต่เป็นการหาสาเหตุที่แท้จริงของเรา อันดับแรกเปิดใจคุยกับคุณพ่อหรือคุณแม่ก่อนค่ะ พ่อแม่รับได้เสมอ ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร แล้วค่อยให้คุณพ่อคุณแม่พาไปพบแพทย์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาจะเห็นได้ว่ามีในเรื่องของความคิดวิตกกังวล ความรู้สึกย้ำคิดในเรื่องเดิมๆ ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะเป็นเรื่องในแง่ลบ ซึ่งเป็นมานานแล้วจนอาการเหล่านี้ได้พัฒนาขึ้นทำให้คุณมีความคิดในเรื่องการฆ่าตัวตาย และในบางครั้งต้องทำร้ายตัวเองเพื่อให้หยุดคิดและกลับมาอยู่กับปัจจุบัน
อาการเหล่านี้เป็นอาการที้เกิดขึ้นได้กับบุคคลที่อยู่ในภาวะกดดันหรือมีความเครียดสูงนะครับ และจากสิ่งที่คุณได้หาข้อมูลมาว่าอาจจะเป็นเพราะสารเคมีในสมองตรงนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งครับ ดังนั้นถึงผมจะเช้าใจว่าไม่ต้องการจะพบแพทย์เพราะไม่อยากให้พ่อแม่รู้ แต่จากสถานการณ์ที่เล่ามา การเจอจิตแพทยิหรือนักจิตวิทยาก็เป็นตัวเลือกที่น่สจะเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณนะครับ
การพบกับจิตแพทย์จะทำให้คุณได้รับการประเมินพบค้นหาการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาที่ช่วยปรับสารเคมีในสมองหรือการพูดคุยให้คำปรึกษาเพื่อเสริมสร้างสภาพจิตใจให้เข้มแข็งขึ้น และสามารถที่จะรับมือกับความเครียด ความกดดันที่จะเข้ามาในชีวิตได้ครับ
ซึ่งในปัจจุบันการเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาในบางโรงพยาบาลไม่จำเป็นจะต้องมีผู้ปกครองไปด้วยครับถึงแม้ว่าจะอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่อย่างไรก็ตามผมก็อยากแนะนำให้ลองพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ดูเมื่อรับการรักษาถึงจุดหนึ่งนะครับ เพราะการต่อสู้กับโรคทางจิตเวชนั่น การได้รับการสนับสนุนจากคนในครอบครัวก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปได้ครับ
นอกเหนือจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญ ในการปฏิบัติตัวของคุณเอง ผมอยากแนะนำให้เริ่มจากการหันกลับมาดูแลตนเอง แบ่งเวลาให้ตนเองได้มีช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ได้ทำในสิ่งที่ชอบ อาจจะเสริมในเรื่องของการออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายบ้าง เพื่อลดความวิตกกังวลและช่วยปรับอารมณ์เศร้าของคุณให้ขึ้นมาครับ ซึ่งการทำกิจกรรมเหล่านี้อาจจะไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่มันจะมีประโยชน์ในระยะยาวหากคุณสามารถทำสิ้งเหล่านี้ให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันได้ครับ
สุดท้ายนี้ในส่วนของความคิดอยากทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย สายด่วนสุขภาพจิต สมาคมสมาริตันส์ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการที่คุณจะได้รับการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์หากว่าคุณต้องการนะครับ แต่ในกรณีฉุกเฉินที่คุณมีความคิดเรื่องฆ่าตัวตายเข้ามาเยอะๆ อยากให้คุณโทรหาคนที่คุณสนิทหรือไว้ใจให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณ เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายนะครับ หรือคุณสามารถโทรไปที่กู้ภัย 1669 ซึ่งเขาสามารถที่จะมาช่วยคุณได้หากคุณกำลังที่จะกระทำการฆ่าตัวตายนะครับ ในส่วนนี้หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการที่เล่ามาอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้นะคะ ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักมาจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ การรักษาจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อปรับให้สารเหล่านั้นหลั่งสมดุล ทำให้เราสามารถควบคุมความคิด อารมณ์ พฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสมมากขึ้นนะคะ นอกจากการใช้ยาแล้วยังมีการรักษาด้วยการทำจิตบำบัดควบคู่กันไปด้วย(ตามสภาพปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย)
เบื้องต้นสำรวจอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้นนะคะ ไม่ควรปล่อยให้อาการรุนแรงมากขึ้นเพราะจะทำให้รักษายาก ใช้ระยะเวลาในการรักษานานขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นคนย้ำคิดย้ำทำมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ เช่น คิดให้ทำร้ายตัวเอง คิดอะไรไม่ดีจนทำให้ตัวเองกลัว เครียด วิตกกังวลค่ะ จนช่วงประมาณ2ปีที่ผ่านมาเป็นหนักมากค่ะ คิดให้ทำร้ายตัวเองจนกลัวมาก อยากตายทุกวัน เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าเลยค่ะ (แต่ไม่เคยไปหาหมอนะคะ) จนล่าสุดมาเป็นอีกค่ะ จู่ๆก็โทษตัวเอง ไม่ให้อภัยความคิดตัวเอง รู้สึกไร้ค่า อยากตาย รู้สึกว่าจะทนความคิดตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่มันก็ผ่านไป(ช่วงแย่ๆของเรามันไม่ได้อยู่ตลอดค่ะ เป็นๆหายๆ) แต่คิดว่าปัญหาหลักน่าจะมาจากสารในสมองสักอย่างมันไม่สมดุล เท่าที่เคยหาอ่านนะคะ ตอนนี้กำลังกลัวความคิดตัวเอง ชอบคิดอะไรที่ไม่ดี คิดอะไรบาปๆ จนต้องทำร้ายตัวเองเพื่อเตือนสติ (จิกนิ้วตัวเองแต่ไม่ถึงขั้นเลือดค่ะ แค่พอให้รู้สึกเจ็บ) ควรจะทำยังไงดีคะ ไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวพ่อแม่รู้ กลัวท่านไม่เข้าใจและจะบอกเราว่าให้เลิกคิดอะไรที่ไม่ดีสิ หนูรู้ว่าต้องไม่คิดแต่มันยากมากเลยค่ะ เหมือนสิ่งไม่ดีมันอยู่ในหัวตลอด ย้ำคิดจนเครียด วนๆไป ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ อยากมีสมาธิในการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้เต็มที่ ไม่อยากมานั่งกังวัลตัวเอง อยากใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนคนอื่นค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)