สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ25ปีรู้สึกว่าตัวเองกำลังติดสารเสพติดอย่างรุนแรง(ยาบ้า)พยายามเลิกมาหลายครั้งแล้วค่ะแต่ยังเลิกให้ขาดไม่ได้สักที เคยหยุดใช้นานสุดได้เพียง5วันก็กลับมาเสพเหมือนเดิม ระยะเวลาที่ใช้อย่างต่อเนื่องก็ประมาณ8-9เดือนมันกลายเป็นการเสพติดทางสมองไปแล้วพอถึงเวลามันจะรู้สึกอยากทำยังไงก็ได้ขอให้ได้เสพเหมือนช่วงเวลานั้นเราขาดสติไปเลย หนูเครียดมากเลยค่ะกับเรื่องนี้จนต้องกินยาคลายกังวลมาตลอด หนูมีอาการหลายๆอย่างตามมาคล้ายกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าพฤติกรรม ทำพูด อารมณ์เปลี่ยนไปหมดเลยโดยเฉพาะสมองย้ำคิดย้ำทำหลงๆลืมๆ ทุกอย่างมันแย่ลงไปหมด หนูอยากปรึกษาคุณหมอว่ามียาตัวไหนที่ช่วยลดอาการอยากได้บ้างมั้ยคะ หนูเลิกด้วยตัวเองไม่ได้จิงๆนับวันก็มีแต่จะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ

สวัสดีครับ
การใช้ยาบ้านั้นจะมีผลกระทบต่อสมองของผู้เสพโดยตรงทำให้มีอาการคล้ายกับผู้ป่วยทางจิตเวชได้หลายอย่าง เช่น หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีอาการคล้ายโรคซึมเศร้า มีความวิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ สมาธิไม่ดี ความคิดความจำไม่ดี หลงลืมง่าย นอนไม่หลับ หูแว่ว เห็นภาพหลอน หวาดระแวง

อาการที่เกิดขึ้นในขณะนี้จึงอาจเป็นผลจากการใช้ยาบ้าได้ครับ และยิ่งมีการใช้มานานมากเท่าไหร่อาการก็มักจะยิ่งแย่ลงมากเท่านั้น รวมถึงอาจมีผลกระทบต่อสมองในระยะยาวได้ครับ

ก่อนอื่นนั้นการที่คุณมีความต้องการอยากเลิกใช้ยาบ้านั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้มีโอกาสเลิกยาได้สำเร็จสูงมากขึ้นครับ แต่การเลิกใช้ยาบ้านั้นก็มีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น มีอาการอยากยา มีอาการจากการถอนยาทำให้ซึมลง คิดอะไรไม่ออก นอนหลับทั้งวัน หรือหงุดหงิดกระสับกระส่ายมากขึ้น ซึ่งคุณน่าจะเคยเผชิญกับมันมาหลายครั้งแล้ว

เพื่อให้มีโอกาสเลิกยาบ้าได้สำเร็จมากขึ้นหมอแนะนำให้ไปปรึกษาจิตแพทย์แพทย์หรือศูนย์บำบัดยาเสพติดเพื่อประเมินอาการและให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นในขณะที่หยุดใช้ยาว่าจะต้องให้การช่วยเหลือด้วยวิธีใดซึ่งในส่วนนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกวิธีการที่เหมาะสมให้ครับ

ลิงค์ข้างล่างนี้เป็นบทความเกี่ยวกับวิธีการเลิกยาเสพติดในเบื้องต้นและข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บำบัดยาเสพติดในเบื้องต้นให้สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมดูได้ครับ
https://www.honestdocs.co/how-addiction-treatment

นอกจากนี้ก็ยังมีสายด่วนสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติดเบอร์ 1165 ให้โทรไปขอคำแนะนำในเบื้องต้นเพิ่มเติมได้เช่นกันครับ

สวัสดีครับ

ขอชื่นชมด้วยนะครับที่มีความตั้งใจที่จะเลิกยาเสพติดด้วยตนเอง และได้มีการพยายามที่จะเลิกด้วยตนเองแล้วถึงแม้จะไม่สำเร็จแต่ก็ถือเป็นความตั้งใจและความพยายามที่กล้าหาญครับในการทำแบบนั้น ในด้านของอาการที่กล่าวมาสามารถเป็นผลกระทบจากการใช้ยาบ้ามาเป็นเวลานานได้ทั้งหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิดวิตกกังวลหรือแม้กระทั่งอารมณ์ที่หดหู่มากยิ่งขึ้น

สำหรับในส่วนของการเลิกยาบ้า ตรงนี้จะไม่ได้มียาชนิดใดที่จะสามารถซื้อด้วยตนเอง เพื่อที่จะใช้ช่วยลดความอยากยาหรืออาการเสพติดลงได้ครับ สิ่งที่อยากแนะนำก็คืออยากให้ลองเข้าไปที่สถานบำบัดยาเสพติดที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อพบแพทย์เพื่อที่จะพูดคุยเรื่องการวางแผนในการเลิกยาเสพติดต่อไปครับ โดยการเลิกยาบ้านั้นมีโปรแกรมที่หลากหลาย ซึ่งจะรวมไปถึงการนอนค้างคืน หรือแม้กระทั่งเป็นโปรแกรมแบบเช้า-เย็นกลับก็มีครับ โดยในด้านความเหมาะสมนั้นควรจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ เพื่อร่วมกันหาวิธีการที่เหมาะสมกับคุณต่อไปครับ

ในปัจจุบันการเข้ารับการช่วยเหลือจากสถานบำบัดยาถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรทำครับ และทางการแพทย์แล้วก็ถือว่าอาการเสพติดเหล่านี้เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ต้องได้รับการรักษาและดูแลจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเลิกยาเสพติดนะครับ ดังนั้นไม่อยากให้กลับที่จะเข้าหาหมอ หรือไปที่สถานบำบัดนะครับ ข้อมูลของสถานบำบัดก็ดูในลิ้งค์ที่คุณหมอด้านบนโพสไว้ได้เลยครับ หรือนอกจากนั้นแล้วก็มีสถานบำบัดยาแบบเอกชนที่ให้บริการอยู่บ้างแต่อาจจะมีราคาที่สูงหน่อยครับสำหรับการเข้ารับการบำบัด ดังนั้นก็อยากให้ลองศึกษาข้อมูลแล้วเลือกดูเอานะครับ

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังให้ให้คุณสามารถเลิกการใช้ยาบ้าได้ในครั้งนี้นะครับ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัยอื่นๆก็สามารถโพสถามมาได้เลยครับ

หากติดสารเสพติดรุนแรง จนความคิด อารมณ์ พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม แนะนำพบจิตแพทย์เข้ารับการบำบัดรักษาจะดีที่สุดค่ะ ซึ่งเบื้องต้นคุณหมอจะประเมินอาการอื่นๆเพิ่ม เช่น ซึมเศร้า ก้าวร้าว ฉุนเฉียว มีประสาทหลอน หรืออาการอื่นๆที่เกิดจากภาวะถอนยา แบบนี้ก็ต้องรักษาด้วยยาควบคู่กับการบำบัดค่ะ นอกจากนั้นเมื่ออาการผิดปกติทางด้านความคิด อารมณ์ พฤติกรรมกลับมาเป็นปกติก็จะประเมินสภาพปัญหาแล้ววางแผนให้การบำบัดด้วยวิธีที่เหมาะสม

การประเมินอาการเพื่อช่วยเหลือในการเลิกยาเสพติดนั้นจำเป็นต้องอาศัยการประเมินด้วยการพูดคุยกันแบบตัวต่อตัวครับ เนื่องจากต้องมีการสังเกตอาการจากหลายๆอย่างทั้งคำพูด วิธีการพูด น้ำเสียง สีหน้า แววตา ท่าทาง อารมณ์ ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุดเกี่ยวกับผลของยาต่อร่างกายและสภาพจิตใจ รวมถึงโรคร่วมทางด้านจิตใจอื่นๆที่อาจเป็นผลมาจากการใช้ยาเสพติดหรือเป็นโรคร่วมที่มีอยู่เดิม เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคสมาธิสั้น

วิธีการหลักที่จะใช้ในการช่วยเหลือให้เลิกยาบ้าได้สำเร็จนั้นจะเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือให้ผู้ใช้ยาสามารถผ่านอาการและอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการเลิกใช้ยาครับ เนื่องจากไม่มียาที่สามารถใช้ทดแทนยาบ้าได้โดยตรง ถ้าหากมีการใช้ยาร่วมด้วยก็จะเป็นยาสำหรับช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นหรือรักษาโรคร่วมที่เป็นอยู่เท่านั้น จึงมีความจำเป็นต้องมีการพูดคุยประเมินอาการกันโดยตรงระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยเพื่อให้สามารถเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้ ไม่สามารถสั่งการรักษาโดยยังไม่เคยประเมินอาการโดยตรงได้ครับ

ในกรณีที่ไม่สะดวกรักษาในโรงพยาบาลใกล้บ้าน การไปเข้ารับการรักษาที่ศูนย์บำบัดยาเสพติดในรูปแบบผู้ป่วยในก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีครับ เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปกลับ และมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีกว่าการรักษาในรูปแบบผู้ป่วยนอก

หมอแนะนำให้ลองหาศูนย์บำบัดที่สะดวกหรือโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติมดูครับ

ตามลิงค์นี้เป็นรายชื่อโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์ประจำอยู่ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ

https://www.honestdocs.co/list-psychiatric-hospital

ในตอนนี้มีเรื่องของความกลัวที่จะต้องเปิดเผยเรื่องนี้ให้กับทางครอบครัวรู้เพราะกลัวว่าพวกเขาจะผิดหวังในตัวของคุณนะครับ ในจุดนี้อาจจะต้องมีการทบทวนถึงข้อดีข้อเสียในการเลือกวิธีการบำบัดรักษานะครับ เพราะว่าจริงๆแล้วการเลิกยาเสพติดนั้น เบื้องต้นแล้วก็สามารถเลิกได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่ในหลายๆครั้งอาการเสพติดเหล่านี้มีอาการรุนแรงทำให้การเลิกยาเสพติดด้วยตัวคนเดียวจะเป็นไปได้ยาก หากปราศจากความช่วยเหลือจาก ผู้เชี่ยวชาญ หรือวิธีการอื่นๆ เช่นการให้คำปรึกษาหรือการใช้ยาเข้าช่วย

การรับคำปรึกษาออนไลน์ก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ครับ การพูดคุยกับนักจิตวิทยาติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่งอาจจะสามารถช่วยคุณในเรื่องการเลิกยาเสพติดได้บ้างแต่ประสิทธิภาพโดยส่วนมากก็จะไม่เท่ากับการเข้าไปรับการรักษาจากสถานบำบัดหรือโรงพยาบาลครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการบำบัดที่อาการอยากยาจะรุนแรงซึ่งคุณควรจะได้รับการสนับสนุนที่มากกว่าการรับคำปรึกษาออนไลน์ นอกจากนั้นการรับคำปรึกษาออนไลน์จะทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงยาที่จะสามารถนำมาทานได้ครับ ยาที่ใช้ในการเลิกสารเสพติดนั้นจะต้องได้รับการสั่งจากแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือสถาบำบัดเท่านั้นครับ เพราะเป็นยาที่อันตรายและมีความละเอียดอ่อนที่ต้องใช้การประเมินและวินิจฉัยจากแพทย์ในการจัดปริมาณยา

หากว่าไม่สามารถไปโรงพยาบาลหรือสถานบำบัดได้จริงๆ ก็แนะนำให้ลองปรึกษาออนไลน์กับนักจิตวิทยาดูครับ แต่อาจจะต้องหาคนที่จะสามารถรับคำปรึกษาอย่างต่อเนื่องได้ครับ เนื่องจากการเปลี่ยนผู้ให้บริการไปเรื่อยๆมักจะไม่ได้ผลเท่ากับการรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาที่คุณรู้สึกไว้วางใจอย่างต่อเนื่องได้ครับ เป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้นะครับ