สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูอายุ 18 ค่ะ ประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาหนูรู้สึกว่าหนูควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ จะหงุดหงิดทุกคนอยู่ตลอด ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจ มีอาการปวดหัวด้วยค่ะ แล้วก็มีเรื่องในคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีอาการนอนไม่หลับนะคะ เเล้วหนูก็ออกกำลังเป็นประจำด้วยค่ะ แต่ถ้าหากหนูได้มีเวลาอยู่คนเดียว อารมณ์ก็จะดีขึ้น หนูไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับการที่หนูเคยอยู่หอพักคนเดียวช่วงม.ปลายหรือเปล่า ช่วงนี้อยู่เเต่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ

การอยู่คนเดียวอาจทำให้รู้สึกเป็นอิสระ ไม่รู้สึกเครียดหรือกดดัน ทำให้อารมณ์ปกติ แต่เมื่อกลับไปอยู่บ้าน อยู่รวมกับสมาชิกคนอื่นๆ บางครั้งความคิดเห็นอาจไม่ตรงกัน หรือบางคนอาจแสดงพฤติกรรมที่เราไม่ชอบ สิ่งเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด เครียด และกดดันได้ค่ะ

ในกรณีนี้แนะนำให้หาเวลาผ่อนคลายความเครียดด้วยตัวเองดูก่อน เช่น การไปออกกำลังกาย การหาเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบ พูดคุยระบายความรู้สึกกับคนที่ไว้วางใจ ฝึกคิดบวกบ่อยๆ เป็นต้น

หากปรับแล้วอาการไม่ดีขึ้น และมีอารมณ์หงิดหงิดง่ายต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ แบบนี้อาจบ่งถึงโรคทางด้านอารมณ์(ได้แก่ ซึมเศร้า ไบโพลาร์ เป็นต้น) ก็เป็นไปได้ ซึ่งควรพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไปนะคะ

สวัสดีครับ

ตรงนี้ก็เป็นไปได้นะครับว่าการที่มาอยู่กับที่บ้านจะทำให้มีคนมาจู้จี้ หรือมีการที่ต้องคำนึงถึงคนในบ้าน แลกฎระเบียบบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดหรือรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เป็นพื้นที่ของตนเองอยู่นะครับ แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าอาการเหล่านี้อาจจะยังบอกอะไรไม่ได้มากนัก แต่อยากให้ลองสำรวจถึงต้นตอที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดดูนะครับ เพราะหากมีอาการหรืออารมณ์บางอย่างเพิ่มขึ้นเยอะแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะเป็นประโยชน์กับหนูนะครับ

นอกจากนั้นแล้วผมอยากเพิ่มเติมในส่วนที่นอกเหนือจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญว่า หนูสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดในตัวหนูลดน้อยลงได้ พูดคุยกับผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่เราไว้ใจ การทำแบบนี้จะให้ผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการช่วยให้หนูสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวอีกด้วยครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของความตึงเครียดหรือเรื่องราวของเราที่เกิดขึ้น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หนูจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ