April 12, 2019 09:17
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
อาจเป็นอาการของภาวะซึมเศร้าได้ครับ
เบื้องต้นแนะนำให้ หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้ครับ
โดยแบบประเมินโรคซึมเศร้ามีดังนี้ครับ
จะมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการขึ้นไป โดยอาการมีดังนี้
1. อารมณ์ซึมเศร้า (เด็กและวัยรุ่นอาจจะเป็นอารมณ์หงุดหงิดแทนได้ครับ)
2. มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงมาก
3. นํ้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (โดยเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น
4. กระวนกระวาย หรือดูเชื่องช้าลง
5.นอนไม่หลับ/หลับมากไป
6. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงแรง
7. มีสมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจ
8.รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
9. มีความคิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
จะต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และควรมีอาการเหล่านี้แทบจะตลอดเวลาครับ
ดีที่สุดน่าจะไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทางด้านจิตใจ(จิตแพทย์)โดยเฉพาะครับ เพราะจะได้วินิจฉัยแยกโรคอื่นๆที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ภาวะเศร้าการปรับตัวไม่ได้จากปัญหาที่มากระทบจิตใจ หรือ ภาวะวิตกกังวลครับ และคุณหมอจิตแพทย์จะชำนาญในการรักษาและให้ยา อีกทั้งจะได้ให้คำแนะนำและติดตามอาการครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาจเป็นอาการซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์ หรือ การมีความเครียดที่ต้องปรับตัวในขณะตั้งครรภ์มากระตุ้นให้เกิดอารมณ์เศร้าก็เป็นไปได้ค่ะ
อาการหลักๆของโรคซึมเศร้า จะมีอาการ ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เบื่อหน่าย ไม่มีความสุขกับสิ่งที่เคยชอบ
2.ท้อแท้ เศร้า
3.นอนไม่หลับ / หลับยาก / อยากนอนทั้งวัน
4.อ่อนเพลีย
5.เบื่ออาหาร /ทานได้มากเกินปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.คิดช้าลง เหม่อลอย /กระสับกระส่าย
8.รู้สึกไร้ค่า สิ้นหวัง
9.อยากตาย /คิดทำร้ายตัวเอง
โดยต้องมีอาการอย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องทุกวัน นานเกินกว่า 2 สัปดาห์ ค่ะ
ในกรณีนี้หากมีความคิดลบ อยากทำร้ายตัวเองจนไม่สามารถควบคุมได้ หรือมีพฤติกรรมการนอน การกิน การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไป แนะนำพบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งการใช้ยาต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะยาบางตัวมีผลต่อตัวอ่อนในครรภ์ ทั้งนี้จิตแพทย์จะประเมินอาการและอายุครรภ์ก่อนเสมอ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ควรรักษาด้วยยา ก็จะใช้วิธีการทำจิตบำบัดและนัดติดตามอาการเป็นระยะๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากเรื่องที่เล่ามาก็มีความเป็นไปได้อย่างที่คุณหมอกับพี่นักจิตวิทยาได้กล่าวไว้นะครับว่าอาจจะมีภาวะโรคซึมเศร้าเข้ามาได้ และผมมองว่าการที่ตอนนีท้องอยู่ด้วยก็อาจจะเป็นทั้งจุดแข็งและก็อาจจะเพิ่มความละเอียดอ่อนต่ออารมณ์ของคุณได้เนื่องจากฮอร์โมนและความกดดันในเรื่องอื่นๆ สำหรับอาการเศร้าตรงนี้ถ้าคงอยู่นานๆ โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ ก็อยากจะแนะนำให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปนะครับ
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะทำให้สภาพจิตใจและเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ ในเรื่องของความคิดฆ่าตัวตาย หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือว่าคุณคิดว่าตนเองมีแนวโน้มที่เราจะทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตายแล้วคุณไม่สามารถที่จะพาตนเองไปยังโรงพยาบาลได้ สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำคุณไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ หากคุณมีคำถามอื่นๆ ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มีอาการเศร้า มีเรื่องให้ตลกก็หัวเราปกติแล้วก็กลับมาเศร้าอีก ใครพูดอะไรก็ชอบเอามาคิดมาก ชอบทำร้ายตัวเองบ่อยมาก อยากฆ่าตัวตายตลอดแต่ตอนนี้ท้องอยู่เลยไม่กล้าทำเพราะนึกถึงลูกที่จะเกิดมา อาการแบบนี้เกิดจากอะไรค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)