August 04, 2018 01:29
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ การเกิด ซิสต์ที่รังไข่ในหญิงวัยเจริญพันธฺ มีได้ทั้งแบบที่ปกติและแบบที่ผิดปกติค่ะ
1 แบบปกติ ที่สามารถหายไปได้เอง และมักเกิดขึ้นตามรอบเดือน ตัวอย่างเช่น follicular cyst หรือ corpus luteum cyst เป็นถุงน้ำรังไข่. ที่เกิดขึ้นจากการตกไข่ของผู้หญิงค่ะ เกิดภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ เช่น เอสโตรเจน ถุงน้ำรังไข่เหล่านี้ ไม่มีอันตราย ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติค่ะ แต่ถ้ามีขนาดใหญ่มากๆ อาจทำให้เกิดอาการได้ เช่น ปวดท้องน้อย ท้องอืด เป็นต้น
**ดังนั้น ถุงน้ำหลายชนิด ไม่ได้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
2. ถุงน้ำรังไข่ที่ผิดปกติ สิ่งที่ต้องสงสัยและควรไปพบแพทย์ซ้ำคือ อาการค่ะ ได้แก่ อาการปวดท้องน้อยรุนแรงเฉียบพลัน หรือ อาการไข้ ประจำเดือนมาผิดปกติ ตกขาวผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น ตัวอย่างถุงน้ำเหล่านี้ เช่น dermoid cyst หรือ teratoma , cystadenoma ,endometrioma เป็นต้น ซึ่งถุงน้ำเหลา่นี้ หากมีขนาดใหญ่ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบีดขั้งของรังไข่ (Ovarian twisting ) ทำให้มีอาการปวดท้องอย่างมาก หรือบางชนิด อาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ค่ะ
ข้อแนะนำคือ แนะนำให้ตรวจภายในประจำปีทุกปี จะมีประโยชน์ทั้งในแง่ การตรวจมะเร็งปากมดลูก รวมถึงการดูขนาดของถุงน้ำรังไข่ของคนไข้ด้วยค่ะ
อนึ่ง การรักษา จะขึ้นอยู่กับชนิดของถุงน้ำ การผ่าตัดจะจำเป็นเมื่อถุงน้ำมีขนาดใหญ่ จนทำให้คนไข้มีอาการผิดปกติ หรือ ถุงน้ำมีลักษณะผิดปกติที่เป็นความเสี่ยง หรือคนไข้เกิดผลแทรกซ้อนจากการมีถุงน้ำรังไข่ ค่ะ หากไม่มีอาการผิดปกติ การผ่าตัดอาจไม่ได้ผลมากนัก เนื่องจาก ถุงน้ำรังไข่ ก็อาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หากเรายังมีฮอร์โมนเพศและอยู่ในวัยเจริญพันํธ์ค่ะ
ถุงน้ำรังไข่บางชนิด อาจใช้ฮอร์โมนช่วยแล้วมีประโยชน์ เช่น PCOS ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เดือนที่เเล้วประจำเดือนหนูมาน้อยมากคะ หนูเลยไปปรึกษาหมอที่ร้านขายยา หมอให้หเปลี่ยนยาคุม เดือนนี้ประจำเดือนหนูมาตั้งแต่วันที่12ถึงตอนนี้ยังไม่หายเลยคะ บางวันมาน้อยบางวันมามาก บางวันก็ไม่มีเลยคะ
อยากทราบว่าเป็นเพราะเปลี่ยนยาคุม หรือเป็นอันตรายเสี่ยงเกิดโรคหรือเปล่าคะ
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
รอบเดือนของผู้หญิงปกติ จะมาประมาณ 3-7 วันค่ะ กรณีประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ (น้อยกว่า 2วัน) อาจมาจากหลายปัจจัยค่ะ ตัวอย่างเช่น
1.ความเครียด
2.โรคทางระบบสืบพันธ์ เช่น ถุงน้ำรังไข่ (PCOS) ความผิดปกติของมดลูก ปากมดลูก เป็นต้น
3.ความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ไม่ว่าจะมาจากภายใน คือร่างกายของเราเอง หรือภายนอก เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ชนิดต่างๆ หรือการใช้ยาอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อการสร้องฮอร์โมนเพศ
4.การออกกำลำลังกายหรือทำงานหนักมากเกินไป พักผ่อนน้อย เป็นต้น
5.โรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคไตเรื้อรัง anorexia การขาดสารอาหารอย่างรุนแรงเป็นต้น
**ดังนั้น ทั้งยาคุมกำเนิด แบะถุงน้ำรังไข่ อาจส่งผลให้ประจำเดือนมาน้อยได้ค่ะ แต่ควรต้องหาสาเหตุอื่นๆเพื่มเติมด้วยค่ะ
เบื้องต้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ นอกจากนี้ ถ้ามีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ควรตรวจการตั้งครรภ์เป็นเบื้องต้นไว้ด้วยค่ะ
ส่วนการรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุ เช่น การให้ฮอร์โมนเสริม การผ่าตัด เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มีสิทธิเป็นซีสต์ในรังไข่ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)