ขอสอบถามคุณหมอหน่อยค่ะ พอดีรู้สึกเหมือนตัวเองมีอารมณ์แปรปรวน ยิ่งช่วงดึกๆมักรู้สึกอยากร้องไห้ เหมือนอยู่ดีๆก็รู้สึกขึ้นมาเอง แต่ก็ร้องไม่ออก แล้วรู้สึกอึดอัดกระวนกระวายใจทั้งทีไม่มีเรื่องเครียดอะไรแต่บางทีก็พยายามหาเหตุผลว่าอาการแบบนี้เป็นเพราะเครียดอะไรรึป่าวก็หาไม่เจอ เป็นแบบนี้เกือบทุกคืน รู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรแต่บางอย่างก็ต้องทำไปตามหน้าที่ ปกติเคยจัดการกับอาการอะไรแบบนี้ได้แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเริ่มมีผลกับการเรียนและการใช้ชีวิตของตัวเองในตอนนี้ตั้งแต่ช่วงมกรา62เป็นต้นมา แล้วก็ช่วง มิ.ย.61-พ.ย.61 เคยได้รับยาเพื่อปรับฮอร์โมนเนื่องจากประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอขาดหายไป3-4เดือนถึงจะเป็น1ครั้งเป็นแบบนี้มาตั้งป.5จนถึงปี2และเพิ่งได้มีโอกาสไปหาหมอ และตอนนี้ได้หยุดยาเพราะครบตามจำนวนที่หมอจ่ายยามาแล้ว เลยอยากจะสอบถามว่าการที่มีอาการดังที่กล่าวมาเป็นผลข้างเคียงจากการหยุดทานยาหรือป่าวคะ แต่ก็เคยมีเหตุการณ์ที่เลิกกับแฟนแล้วร้องไห้แทบเป็นแทบตายอยู่ประมาณ2-3อาทิตย์ช่วงกลางคืนทุกคืนโดยที่ไม่ทำอะไรเลยช่วงเดือนกรกฎา61หรือนานกว่านี้จำไม่ได้ค่ะแต่อาการตอนนั้นก็คือซึมทั้งวันแต่ต้องทำให้คนรอบข้างไม่รู้สึกว่าเราเป็นอะไรเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้สึกหม่นหมองแบบเราเลยต้องทำเป็นโอเคร่าเริงแม้จะไม่ได้รู้สึกร่าเริงแล้วก็ไม่อยากปรึกษาใครเพราะไม่อยากรบกวนคนอื่นแม้แต่พ่อแม่ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง แล้วก็อาการดีขึ้นเพราะคิดถึงแต่พ่อแม่และเรื่องเรียนอย่างเดียวจนกลับมาโอเคอีกครั้ง แล้วก็เพิ่งมามีความรู้สึกแบบนี้อีกครั้งแต่ไม่ถึงขนาดนั้นเลยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ เลยไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการแบบนี้อีกครั้งทั้งที่ไม่มีเรื่องเครียดอะไรเป็นเพราะอะไรรึป่าว ขอรบกวนด้วยค่ะ

สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์ เบื่อไม่อยากทำอะไรโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนติดต่อกันเป็นเวลานานจนส่งผลกระทบ(ต่อการเรียน อาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ส่วนอาการที่เกิดขึ้นนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนที่รับประทานหรือไม่ครับ ใบเบื้องต้นหมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

จากอาการอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นซึมเศร้าได้นะคะ ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักเกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ บางครั้งต่อให้เราปรับตัวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายมาได้ แต่เมื่อใดที่มีปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอารมณ์ทางลบ หรือมีความเครียด ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ง่ายค่ะ

เบื้องต้นลองสำรวจอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ