February 02, 2019 11:52
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการปวดอัณฑะ สามารถเกิดจากได้หลายอย่างค่ะ เช่น
1.ร้ายแรงสุด คือ การบิดขั้วของลูกอัณฑะ ( testicular torsion) ซึ่งเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ เนื่องจาก หากทิ้งไว้นาน อาจทำให้อัณฑะขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยือเน่าตาย ต้องตัดอัณฑะอาการคือ การปวด หรือ บวม หรือแดงขึ้นอย่างเฉียบพลันของลูกอัณฑะค่ะ
2.อุบัติเหตุ/ การกระทบกระแทกที่อัณฑะ เช้น การโดนบีบแรงๆ อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา/เครื่องเล่น อาจทำให้เกิด อันตรายต่อลูกอัณฑะได้ค่ะ เนื่องจากลูกอัณฑะเป็นบริเวณที่บอบบาง ห่อหุ้มด้วยถุงอัณฑะ ซึ่งเป็นหนังบางๆ เท่านั้น ทำให้การกระทบกระแทก หรืออันตรายเพียงเล็กน้อย สามารถก่อให้เกิดอันตรายกับอัณฑะได้ง่ายค่ะ สิ่งที่จะทำให้เกิดได้ เช่น อัณฑะฉีกขาด มีเลือดออก มีการอักเสบของท่อน้ำอสุจิ
3.การติดเชื้อ เช้น อัณฑะอักเสบ ท่อนำอสุจิอักเสบ เป็นต้น อาการอาจจะมี ปวด บวม แดง ร้อน หรือมีไข้ได้ค่ะ
4 การขาดเลือดไปเลี้ยงที่อัณฑะ จากปัญหาของเส้นเลือดต่างๆ
5พบไม่บ่อย เช่น ก้อนที่อัณฑะ. อาการอาจมาด้วยปวด อัณฑะสองข้างไม่เท่ากัน เป็นต้นค่ะ
หากมีอาการปวดมาก คลื่นไส้อาเจียน อัณฑะบวม แดง หรือมีไข้ ให้รีบไปพบแพทย์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
หายเองไหมครับ
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
บางอย่างสามารถหายเองได้ แต่กรณีเช่น การบิกขั้วของอัณฑะ ไม่หายเองต้องผ่าตัด หากไไปพบแพทย์ช้า เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อัณฑะขาดเลือด อาจต้องตัดอัณฑะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการปวดหน่วงอัณฑะอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ได้แก่
-อัณฑะอักเสบ(Epididymitis) อาการคือ ปวดหน่วง อัณฑะบวม อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด มีหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ มีไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
-อัณฑะบิดขั้ว(Testicular torsion) เป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ทันที อาการคือปวด อัณฑะบวมและมักอยู่สูงกว่าอีกข้าง คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง
-หลอดเลือดดำอัณฑะขอด(Varicocele) จะมีอาการปวดหน่วง ปวดชา มีหลอดเลือดดำโป่งนูน
-ไส้เลื่อนที่ขาหนีบ (Inguinal hernia) เจ็บที่ก้อน ก้อนจะโตเมื่อออกแรง ออกกำลังกาย หรือไอ
-การบาดเจ็บของอัณฑะ มักเกิดหลังจากได้รับการกระทบกระแทกหรืออุบัติเหตบริเวณอัณฑะ ถ้าเป็นไม่รุนแรงมักหายไปเองภายในไม่กี่วัน แต่ถ้าเป็นรุนแรงจนเกิดการบาดเจ็บภายในจำเป็นต้องไปพบแพทย์
จากประวัติถ้ามีประวัติได้รับการกระทบกระแทกมาก่อนอาจคิดถึงกรณีสุดท้าย ถ้าเป็นไม่ไม่รุงแรงมักจะหายไปเอง เบื้องต้นอาจประคบอุ่นบรรเทาอาการปวด ทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบ แต่ถ้าไม่หายหรือไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆร่วมผิดปกติให้ไปพบแพทย์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
รู้สึกปวดอัณฑะข้างขวาข้างเดียวอะครับ เป็นอะไรไหมครับ คือก่อนเป็นไปสวนสนุกแห่งนึงมาอะครับแล้วไปเล่นเครื่องเล่นมา เกี่ยวกับการปวดหรือเปล่าครับ แล้วจะหายเองไหมครับ (ผมอายุ12เอง)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)