March 02, 2019 22:28
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
อาการปวดท้อง จำเป็นต้องได้รับประวัติเพิ่มและตรวจร่างกายเติมค่ะ เช่น ปวดที่ไหน ปวดอย่างไร ปวดตอนไหน ปวดมานานเท่าไหร่ มีอาการร่วมไรบ้าง ทำอะไรแล้วปวดมากขึ้น หรือลดลง เป็นต้นค่ะ
ตัวอย่าง เช่น
อาการปวดท้องด้านขวาล่าง เป็นได้หลายอย่างค่ะ เช่น
-การติดเชื้อในลำไส้ หรือท้องเสียถ่ายเหลว อาหารเป็นพิษ ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ถ้าติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่ไม่รุนแรงมาก ก็สามารถหายเองได้ค่ะ
-ไส้ติ่งอักเสบ อาการที่ควรมี เช่น ปวดท้องด้านขวาล่าง มีไข้ อาจมีถ่ายเหลวกระปริบกระปรอย คลื่นไส้ / อาเจียน
-การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ อาจมีอาการร่วมคือ มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้นค่ะ
-เนื้องอก อันนี้แนะนำว่าอย่าเพิ่งกังวลไปนะคะ อาการอาจจะมาด้วยปวดท้อง ท้องผูกท้องเสียสลับไปมา น้ำหนักลด อาจมีถ่ายเป็นเลือด เป้นต้น
-สาเหตุจากกล้ามเนื้อ คนไข้อาจมีประวัติยกของหนัก ออกกำลังกาย โดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณท้องมาก การปวด อาจสัมพันธ์กับการขยับตัว ถ้าอาการปวดเป็นหลังจากการออกกำลังกาย โดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณท้องมาก การเกร็งหน้าท้องเป็นเวลานาน หรือการบิดอยู่ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานค่ะ มีจุดกดเจ็บชัดเจน โดยมากหายได้เองค่ะ ถ้าไม่หาย สามารถทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือ ไดโคฟิแนคได้ (โปรดปรึกษาแพืย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยานะคะ)
หากอาการไม่ดีขึ้น ปวดมาก มีไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ
******-โรคทางระบบสืบพันธ์สตรี เช่น ถุงน้ำรังไข่ เชิงกรานอักเสบติดเชื้อ ถ้าทีอาการตกขาวผิดปกติ ประจำเดือนปกติ ปวดท้อง แนะนำให้ไปตรวจภายในเพิ่มเติม และแนะนำให้สตรีตรวจภายในประจำปี ทุกปีค่ะ
ซึ่งหากมีอาการเลือดออกกระปริบกระปรอย อาจสัมพันธ์กับโรคทางระบบสืบพันธืได้ค่ะ
ตัวอย่าง โรคที่ทำให้เลือดออกกระหริบกระปรอยทางช่องคลอด เช่น
1. การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด เช่น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน การฝังยาคุมกำเนิดช่วงแรกๆ หรือการฉีดยาคุมกำเนิด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช เป็นต้น
2.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ กระปริบกระปรอยได้
3.ภาวะ ฮอร์โมน ไม่ปกติ ซึ่งมีหลายชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
4.เนื้องอก เช่น เนื้องอกในมดลูก [myoma ] เป็นต้น
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการปวดท้องด้านขวาล่างและเลือดออกกระปริบกระปรอย เมื่อจะวินิจฉัย ต้องประกอบการซักประวัติเพิ่มเติม และการตรวจร่างกายในหลายๆอย่าง และอาจจะต้องส่งตรวจเพิ่มเติมด้วยค่ะ ดังนั้น หากคนไข้มีอาการบ่อยๆ หรือปวดมาก ถ่ายเหลวหรือถ่ายมีเลือดปน หรือมีไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ปวดท้องข้างขวาค่ะ มีตกขวาปนเลือดกระปิบกระปอยมาประมาณ 2 วัน เป็นหลังประจำเดือนหมดแล้ว 7 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)