เมื่อวันพุธที่30/01/2562ที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์โดยการถูไถจากด้านหลังในลักษณะยืนครับผมกลัวว่าน้ำหล่อลื่นของผมจะไปโดนอวัยวะเพศของเเฟนเพราะอยู่ไกล้กันกับก้นที่ถูไถแต่ไม่ได้สอดใส่เข้าช่องคลอดครับเเล้วเมื่อวานครบ14วันหลังจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวได้ตรวจการตั้งครรภ์โดยการตรวจจากปัสสาวะในเเบบจุ่มแต่ไม่ได้ใช้ปัสสาวะในตอนเช้าแต่ได้ตรวจในตอนเย็นของวันผลที่ได้คือ1ขีดครับ ผมสามารถเชื่อมั่นได้เลยไหมครับ คือยังกังวลครับช่วยตอบไห้หายกังวลหน่อยครับหมอ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่จะไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ครับ

แต่การตรวจการตั้งครรภ์ที่ถูกต้องและจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นการตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจจึงจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ ถ้าหากไม่ได้ตรวจในช่วงเวลานี้ก็อาจให้ผลตรวจที่ผิดพลาดได้ครับ

เลือดล้เด็กเป็นเลือดที่จะออกมาจากการที่มีการฝังตัวของตัวอ่อนที่เยื่อบุโพรงมดลูก มีลักษณะเป็นเลือดสีชมพูจางๆออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยติดต่อกันไม่เกิน 1-2 วัน และมักเกิดขึ้นหหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 7-14 วันครับ

ในขณะที่ประจำเดือนนั้นจะมีลักษณะเป็นเลือดสีแดงคล้ำเหมือนเลือดเก่า ออกมาติดต่อกัน 3-7 วัน ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น โดยมาห่างกันรอบละ 21-35 วัน

ซึ่งในกรณีนี้เลือดที่ออกมาไม่น่าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กครับ เนื่องจากคุณไม่ได้มีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่

ประจำเดือนอาจมาคลาดเคลื่อนไปจากกำหนดเดิมได้บ้างเล็กน้อยโดยไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติครับ

ทั้งนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตดูลักษณะของเลือดที่ออกมา 2-3 วันหลังจากนี้ ถ้าเลือดมีลักษณะเหมือนประจำเดือนในเดือนที่ผ่านๆมาก็น่าจะเชื่อได้ว่าเป็นประจำเดือนจริงครับ

หมอแนะนำให้รอสังเกตลักษณะของเลือดต่อไปอีก 2-3 วันก่อนครับ ถ้าเลือดมีลักษณะเหมือนประจำเดือนในเดือนที่ผ่านๆมาก็น่าจะเชื่อได้ว่าเป็นประจำเดือนจริงครับ

การที่จะบอกได้ว่าใช่ประจำเดือนปกติหรือไม่นั้นต้องอาศัยการสังเกตอาการด้วยตนเองเป็นหลักครับ ว่าเลือดที่ออกมามีลักษณะเหมือนกับประจำเดือนในเดือนที่ผ่านๆมาหรือไม่

ถ้าหากลักษณะใกล้เคียงกับประจำเดือนในรอบเดือนที่ผ่านมาก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนจริงครับ

ถ้าหากแฟนมั่นใจว่าเลือดที่ออกมานั้นเหมือนกับประจำเดือนในเดือนที่ผ่านๆมาก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนจริงได้สูงครับ

และในความเป็นจริงแล้วในกรณีนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ เพราะว่าคุณไม่ได้มีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ครับ

นอกจากประจำเดือนแล้ว เลือดก็อาจออกจากช่องคลอดได้จากอีกหลายสาเหตุครับ เช่น
- เลือดที่ออกมาในวันที่มีการตกไข่
- ผลจากระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
เป็นต้นครับ

ลักษณะของประจำเดือนตามปกติตามทฤษฎีนั้นจะมีลักษณะคือ
- มาห่างกันอย่างสม่ำเสมอรอบละ 21-35 วัน
- มานานติดต่อกัน 3-7 วัน โดยใรวันแรกๆจะมีปริมาณมากกว่าในวันหลังๆ
- ใช้ผ้าอนามัยวันละประมาณ 2-3 แผ่น
- ลักษณะเป็นเลือดเก่าสีแดงคล้ำ

อย่างไรก็ตามการที่จะบอกได้ว่าเลือดที่ออกมาใช่ลักษณะของประจำเดือนตามปกติหรือไม่นั้นจะต้องอาศัยการสังเกตอาการด้วยตนเองเป็นหลักครีบ เนื่องจากประจำเดือนของแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกันไปได้เล็กน้อย

หมอจึงไม่สามารถยืนยันให้ได้ว่าใช่ประจำเดือนตามปกติหรือไม่ในกรณีนี้ครับ

ประจำเดือนที่ปกติไม่จำเป็นต้องไหลออกมาตลอดเวลาครับ โดยถ้าหากลักษณะเลือดที่ออกมานั้นมีลักษณะคือ
- มาห่างกันรอบละ 21-35 วัน
- มานานติดต่อกัน 3-7 วัน โดยในวันแรกๆจะมีปริมาณมากกว่าวันหลังๆ
- ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น
- ลักษณะเป็นเลือดเก่าสีแดงคล้ำ

ถ้าเป็นตามนี้ก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนที่ปกติได้ครับ

ในบางครั้งประจำเดือนก็อาจมีลักษณะเป็นลิ่มเลือดปนออกมาได้ครับ

แต่ถ้าหากไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนปกติหรือไม่ หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในประเมินอาการและลักษณะเลือดเพิ่มเติมก่อนได้ครับ

ตามคำแนะนำของหมอคือการตรวจการตั้งครรภ์นั้นควรตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ “ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ” ครับ เนื่องจากจะเป็นปัสสาวะที่มีระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์อยู่มากที่สุดทำให้ตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ง่ายที่สุดครับ

ในกรณีที่คุณมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากจริงๆก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ถูกวิธี ไม่เช่นนั้นคุณก็จะกังวลไปเรื่อยๆอยู่แบบนี้ครับ

ถ้าหากให้หมอแนะนำ หมอก็ยังคงยืนยันตามคำตอบเดิมว่าควรใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจครับ