April 26, 2019 23:13
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงที่ยังมีอาการผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้ามักมีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองอยู่บ่อยๆซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไป ซึ่งต้องรอเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังรับประทานยาอาการจึงจะเริ่มดีขึ้นครับ ในระหว่างนี้จึงต้องคอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดไปก่อน
การดูแลคนที่เป็นโรคซึมเศร้าสำหรับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดนั้นสามารถทำได้โดยการคอยอยู่เคียงข้างกับผู้ป่วยและคอยช่วยรับฟังความอึดอัดไม่สบายใจของผู้ป่วยโดยไม่ตัดสินครับ ในตอนนี้ต้องยอมรับก่อนว่าการพูดเรื่องต่างๆออกมาในแง่ลบอย่างไม่สมเหตุสมผลนั้นเป็นมาจากตัวโรคซึ่งตัวผู้ป่วยเองไม่ได้มีความต้องการที่จะเป็นเช่นนั้นจริงๆแต่ก็ไม่สามารถห้ามความคิดดังกล่าวได้
ในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่ทำให้ผู้ป่วยอาจตีความว่าเป็นการทอดทิ้งหรือไม่เข้าใจเขา เช่น ทำไมถึงไม่คิดแบบนี้ล่ะ เรื่องแค่นี้เองทำไมคิดไม่ได้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
และนอกจากนี้ก็ควรมีการสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เก็บข้าวของที่ผู้ป่วยอาจนำมาใช้ทำร้ายตัวเองได้ให้พ้นจากสายตาผู้ป่วย เช่น ยา สารเคมี ของมีคม เชือก อาวุธต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยลงมือหรือพยายามฆ่าตัวตายครับ
ในระหว่างนี้ก็ควรดูแลให้ผู้ป่วยกินยาอย่างสม่ำเสมอและไปพบแพทย์เพื่อติดตามอาการตามนัด ยกเว้นว่าในระหว่างนี้อาการผู้ป่วยกำเริบรุนแรงมากขึ้น มีความคิดอยากฆ่าตัวตายรุนแรงมากขึ้น ก็ควรพากลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
สิ่งที่ญาติสามารถทำได้ คือการดูแลให้ผู้ป่วยซึมเศร้าได้ทานยาสม่ำเสมอ ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้สามารถควบคุมการคิด การรับรู้ สภาวะอารมณ์และพฤติกรรมได้เหมาะสมมีเหตุผลตามความเป็นจริงมากขึ้น
นอกจากนั้นควรเฝ้าระวังเรื่องการทำร้ายตัวเองของผู้ป่วย จัดเก็บอุปกรณ์ของมีคม สารเคมีต่างๆให้มิดชิด ให้กำลังใจ รับฟังสิ่งที่ผู้ป่วยระบายออกมา ชวนผู้ป่วยไปทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายและพาไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งนะคะ
หากในระหว่างทานยาเกินกว่า 2 อาทิตย์ไปแล้ว อาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆเพิ่มขึ้น ควรไปพบแพทย์ก่อนนัด เพื่อประเมินอาการ ปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมกับอาการ อาการจะค่อยๆดีขึ้นนะคะ
การรักษาซึมเศร้าอาจต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษาเยียวยา ดังนั้นญาติก็ต้องใจเย็นๆ มีความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ สาเหตุ และวิธีการดูแลที่เหมาะสม สิ่งสำคัญ ญาติควรหาเวลาผ่อนคลายให้กับตัวเองบ้าง แยกแยะปัญหาของผู้ป่วยกับชีวิตของตนเองให้ได้ ไม่เช่นนั้นการที่ญาติจมกับความทุกข์ของผู้ป่วยก็อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้เช่นกันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอถามเพี่มเติมค่ะ. โรคจิตเภท และ โรคซึมเศร้า ต่างกันอย่างไร? เป็นไปได้ไหมถ้าเป็นทังสองโรคพ้อมกัน. การรักษาเหมือนกันหรือไม่. เราจะแยกแยะได้อย่างไรว่าเค้าเป็นแบบไหน.
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อาการของโรคจิตเภทนั้นจะเด่นไปที่การมีความคิดและการรับรู้ที่ผิดปกติไปจากความเป็นจริงทำให้มีอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอน คิดหลงผิด หวาดระแวง มีการพูดที่ผิดปกติพูดวกวน พูดแล้วจับใจความไม่ได้ การดูแลสุขอนามัยของตัวเองแย่ลง และมักมีการเก็บตัวมากขึ้นครับ
ส่วนอาการสำคัญของโรคซึมเศร้านั้นจะเป็นการมีอารมณ์เศร้าหรือการเบื่อไม่อยากทำในสิ่งที่เคยชอบทำ ผู้ป่วยมักมองโลกในแง่ลบ ติดโทษตัวเองบ่อยๆ มีปัญหาในด้านการกินการนอน และอาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้
ในบางครั้งอาการของโรคจิตเภทและโรคซึมเศร้านั้นก็อาจเกิดขึ้นพร้อมกันได้ ซึ่งก็จะมีรายละเอียดของการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันครับ
การแยกแยะระหว่าง 2 โรคนี้ด้วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยากครับ ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการที่เปลี่ยนแปลงไปหมอก็แนะนำให้พากลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อนวันนัด เพื่อที่จะได้ให้การวินิจฉัยสาเหตุและให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอนนี้น้องสาวมีอาการชึมเศร้า และ วิตกกังวลมากเลยค่ะ. ไปหาหมอแล้ว หมอเอายาคายเครียดให้. อาการตอนนี้ คิดมากค่ะ คิดในแง่ลบ แต่พูดความคิดของตัวเองออกมาตลอดค่ะ. บางครั้งไม่ยอมรับว่าเป็น และ เชื่อว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะต้องการอยากเป็น. เคยถามว่าอยากหายไหม และ น้องบอกว่าไม่อยากหายค่ะ. คิดมาก และ เก็บเอาคำพูดของคนอื่นมาคิดเพี่ม, แต่จะเอาคำพูดต่างๆมาเปลี่ยนไปในทางลบหมดเลยค่ะ. กลัวการพบผู้คน. มีบางครั้งที่อาการดีขึ้น แต่ไม่ถึงชั่วโมงก็กลับมาวิตกกังวลเหมือนเดิม และ เดินไปเดินมา, บางครั้ง ร้องไห้ค่ะ. อยากถามว่า คนรอบข้างควรทำอย่างไร และ ไม่ควรทำ หรือพูดอะไรบ้างไหมคะ? ขอคำแนะนำเพี่มเติมต่างๆด้วยค่ะ. ขอบคุณค่ะ.
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)