May 28, 2019 10:42
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
อาจเป็นได้ทั้งจากน้ำหล่อลื่นที่ออกมาขณะมีอทรมณ์ทางเพศหรืออาจเป็นสารหล่อลื่นของถุงยางได้ครับ ตามปกติถุงยางหากเช็คแล้วไม่มีการฉีกขาดมักผ่านมาตรฐานการซึมอยู่แล้วครับ โอกาสที่ถุงยางรั่วซึมจึงมีได้น้อยครับ
หากขนาดที่ใส่พอดีกับขนาดอวัยวะเพศและไม่มีการหลุดของถุงยางโอกาสรั่วไหลของน้ำอสุจิก้มีได้น้อยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ คือถ้าไม่ได้เห็นภาพก็จะบอกไม่ได้ว่าคืออะไร อาจเป็นไปได้ทั้งสารหล่อลื่นจากถุงยาง หรือน้ำหล่อลื่นจากอวัยวะเพศได้ สำหรับการใช้ถุงยางอนามัยถ้าใช้ถูกต้องก็จะสามารถคุมได้มากถึง 98%ค่ะ สำหรับขั้นตอนในการใส่ถุงยางที่ถูกต้องมีดังนี้ค่ะ ได้แก่ เช็ควันหมดอายุของถุงยางอนามัยและใส่ให้ถูกด้านเวลาใช้ ต้องใส่ขนาดที่พอดีค่ะ ถ้ารัดไปถุงยางจะขาดได้ ส่วนถ้าหลวมไปจะเคลื่อนหลุดได้ ลองหาหลายๆยี่ห้อและทดสอบกับตัวเองก่อนใช้งานจริงว่าขาดหรือเลื่อนหลุดไหม ถ้าไม่ก็แสดงว่าใช้ได้ค่ะ ไล่ลมออกโดยการใช้นิ้วบีบปลายถุงยางอนามัยขณะสวมใส่อวัยวะเพศที่แข็งตัวเต็มที่ค่ะ วิธีทดสอบว่ารั่วหรือไม่ก่อนใช้งานคือ หลังสวมถุงยางไปแล้วให้กดกระเปราะตรงปลายถ้ากระเปาะคืนสภาพแสดงว่าไม่รั่วค่ะ แต่ถ้าไม่คืนสภาพ กดแล้วยุบตัวแสดงว่ามีรูรั่วค่ะ และหลังใช้เสร็จอาจทดสอบถุงยางอีกรอบว่ารั่วหรือไม่โดยการบีบส่วนปลายอีกรอบค่ะ รูดให้ชิดโคนมากที่สุดค่ะเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางอนามัยเลื่อนหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และควรใช้สารหล่อลื่นสำหรับการมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์เท่านั้น เช่น KY jelly หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมเป็นน้ำหรือซิลิโคนเท่านั้น สารอื่นเช่น วาสลีน เบบี้ออลย์ น้ำมันมะพร้าว โลชั่นทาผิวทั่ว หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันห้ามใช้เพราะจะทำให้ถุงยางขาดง่ายค่ะ
ถ้าปฏิบัติตามดังนี้ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมปฏิบัติตาม ถูกหมดครับ ถ้ามันคือน้ำหล่อลื่นของผมจริง มันไม่ได้อยู่แค่ปลายถุงยางตรงกะเปราะ แต่มันมาอยู่ถึงตรงกลางลำ และตรงโคน ใกล้ทางออกถุงยาง ยังงี้มันจะไม่มีโอกาสเล็ดออกมาทางโคนถุงยางหรือครับ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ถ้าใส่ขนาดพอดี รูดถุงยางมาถึงโคน โอกาสเล็ดลอดออกก็น้อยมากๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ถ้าใส่ขนาดพอดี รูดถุงยางมาถึงโคน โอกาสเล็ดลอดออกก็น้อยมากๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือมัน อาจจะ เป็นสารหล่อลื่นก็ได้หรือครับ แต่มันอยู่ข้างในถุงยางนะครับ สารหล่อลื่นน่าจะเคลือบอยู่ข้างนอกหรือปล่าวครับ
เวลา มี เพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง ผมเลือกขนาดที่เหมาะกับตัวเองแล้ว บีบปลาย ไว้เป็นกระเปาะแล้ว คือ คิดว่าทำถูกต้องหมดแล้วตามขั้นตอน แต่เวลามี พสพ (ผมยังไม่ได้ถึงจุดสุดยอดเลยนะครับ) พอผ่านไป จะมีน้ำสีขาวขุ่นอยู่ภายในถุงยาง ตรง ลำน้องชาย และตรง ใกล้ๆโคนน้องชาย มันคือน้ำอะไรครับ (ย้ำว่าอยู่ข้างในถุงยาง ไม่ใช่น้ำของฝ่ายหญิงแน่ๆ) ผมเลยกลัวว่า มันจะ ซึม เล็ดออกมาทางโคน ถุงยาง ระหว่าง มี พสพอยู่ได้หรือปล่าวครับ คือถ้าเห็นแบบนี้เมื่อไรควรเปลี่ยนถุงยางอันใหม่เลยไหมครับ(แต่ผมไม่ได้เสร็จแน่ๆครับ) แล้วมันคือน้ำอะไรครับ น้ำหล่อลื่นของผม(มีอสุจิปน)?? หรือเป็นสารหล่อลื่นของถุงยางหรือเปล่าครับ แต่ไม่น่าใช่ เพราะ น้ำสีขาวขุ่นนี้อยู่ภายในถุงยาง??
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)