September 23, 2018 19:19
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการท้องเสียเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่
- สารพิษหรือ toxin ที่เชื้อแบคทีเรียสร้างขึ้นมา ที่ปะปนอยู่ในอาหาร เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงทำให้เกิดอาการถ่ายเหลว เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาของร่างกายเอง เพื่อจะกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย โดยมาก เมื่อถ่ายของเสียออกมาจนหมด อาการจะหายไป ไม่มีไข้ ลักษณะอุจจาระจะเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล อาจพบมีคลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด จุกแน่นท้อง ปวดท้องบีบๆเป็นพักๆ ได้. อาการอาจเป็นได้นาน 1-3 วัน
- ติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียโดยตรง ติดเชื้อเข้าไปอาศัยในเยื่อบุของลำไส้ ทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ อาการที่พบมักมีถ่ายเหลวมาก อ่อนเพลีย มักมีไข้ ถ่ายอุจจาระอาจมีมูกหรือปนเลือดออกมาได้ อาการปวดท้องเนื่องจากร่างกายพยายามขับไล่เชื้อและของเสียออกไป จึงทำให้ลำไส้บีบตัวแรง อุจจาระมักมีกลิ่นเหม็นมาก อาการลำไส้อักเสบ สามารถรักษาได้ด้วยยาฆ่าเชื้อ
วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อท้องเสีย คือการดื่มน้ำเกลือแร่ ให้เพียงพอ เพื่อชดเชย น้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียออกไปกับอุจจาระ และทานยาตามอาการ เช่นยาแก้ปวดท้อง ลดอาการหดเกร็งลำไส้ แก้คลื่นไส้อาเจียน ยาขับลม
กรณีนี้ อาการเป็นมานาน ถ่ายปริมาณมาก แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อประเมินอาการ ตรวจหาสาเหตุ และให้ยารักษาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ถ่ายเป็นน้ำ/เหลวมา 6 วันแล้วครับ ตอนเช้าๆจะเป็นหนัก ดื่มน้ำก็ยังถ่ายพุ่งออกมาเป็นน้ำ มีอาการมึนๆ วิงเวียนหลังถ่ายมากๆ ตอนนี้กินเกลือแร่ ors ตลอดครับ จำเป็นต้องพบแพทย์ไหมครับ ไม่มีถ่ายเป็นเลือดหรืออื่นๆครับ สีเหลืองปกติ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)