April 24, 2019 19:16
ตอบโดย
ณัฐชยา รอดแป้น (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 1 กล่อง มีตัวยา 2 เม็ด ควรกินทั้ง 2 เม็ด โดยกินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และกินเม็ดที่สองเมื่อครบ 12 ชั่วโมงหลังจากกินเม็ดแรกแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ยามีประสิทธิภาพสูงมาก แต่ก็มีผลข้างเคียงมากเช่นกัน ถึงอย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยู่ที่ประมาณ 85-95%
กรณีของคุณถ้ารับประทานยาเม็ดแรกไปแล้วหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ดังนั้นเมื่อครบ 12 ชั่วโมงหลังจากทานเม็ดแรก ก็ให้ทานเม็ดที่ 2 ต่อ ซึ่งยาคุมฉุกเฉินจะยังป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งที่ 2 นี้ได้ ไม่จำเป็นต้องเริ่มทานยาชุดใหม่ค่ะ
สำหรับผลข้างเคียงของการทานยาคุมฉุกเฉิน ที่พบได้ ได้แก่ เวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศรีษะ เจ็บเต้านม มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดในช่วงเวลา 1 สัปดาห์หลังกินยา และอาจทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือเร้วกว่าปกติได้ และไม่แนะนำให้รับประทานยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2กล่อง ต่อเดือนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนนะคะ
ในปัจจุบัน มียาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ดจำหน่ายค่ะ เช่น ยี่ห้อเมเปิ้ลฟอร์ท และแทนซีวัน ซึ่งมีตัวยาเดียวกันกับยาคุมฉุกเฉินแบบดั้งเดิมที่เป็นแผงละ 2 เม็ด อย่างโพสตินอร์, มาดอนน่า, แมรี่พิงค์, นอร์แพ็ก และเลดี้นอร์ค่ะ
หากเป็นยาคุมฉุกเฉินแบบดั้งเดิมที่มีแผงละ 2 เม็ด แต่ละเม็ดจะประกอบด้วยตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล 0.75 มิลลิกรัม รวมกัน 2 เม็ดก็จะเป็น 1.5 มิลลิกรัมค่ะ โดยสามารถรับประทานได้ 2 วิธี ได้แก่
- วิธีดั้งเดิม คือให้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด แยกเป็น 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมงนะคะ
- วิธีใหม่ คือ รับประทาน 2 เม็ดรวมกันในครั้งเดียวค่ะ
ทั้ง 2 วิธี จะต้องรับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ (ในอดีตจะแนะนำเป็น 72 ชั่วโมง แต่ต่อมามีการยืดระยะเวลาเป็น 120 ชั่วโมงได้ค่ะ เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจไม่ดีเท่ากับ 72 ชั่วโมงแรก แต่ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินได้เช่นกัน)
ซึ่งมีการศึกษาแล้วว่าประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของทั้งสองวิธีไม่แตกต่างกันนะคะ แต่การศึกษาใหม่ ๆ ชี้ว่าการรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียว อาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่า อีกทั้งยังสะดวกต่อผู้ใช้ ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมรับประทานเม็ดที่สองด้วยนั่นเอง
ปัจจุบันจึงได้มีการผลิตยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียว ซึ่งที่มีใช้ในประเทศไทยยังเป็นตัวยาลีโวนอร์เจสเทรลเหมือนเดิมค่ะ เพียงแต่ใน 1 เม็ดจะมีตัวยา 1.5 มิลลิกรัม ดังนั้น จึงเท่ากับยาคุมฉุกเฉินแบบดั้งเดิมรวมกัน 2 เม็ดนั่นเองนะคะ
และแนะนำให้รับประทานแบบเม็ดเดียวครั้งเดียว ให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
ในกรณีของผู้ถาม น่าจะมีการใช้แบบใหม่ที่เป็นแผงละ 1 เม็ดนะคะ ดังนั้น เมื่อรับประทานไปแล้ว ก็ถือว่าครบขนาดการใช้แล้วค่ะ
แต่ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพไม่สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำ ก็จะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยค่ะ
หากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันซ้ำอีก หรือใช้ถุงยางแล้วมีการฉีกขาดหรือรั่วซึม ก็ควรจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีก 1 แผงนะคะ แต่ตามที่กล่าวไปแล้วว่าแม้จะใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้วก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานอยู่ดี จึงต้องรอดูต่อไปว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าเรามีเพศสัมพันธ์แล้วกินยาคุมแบบเม็ดเดียวไปแล้ว แล้วมีเพศสัมพันธ์อีกหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินไปประมาน5. ชม. จำเป็นต้องกินยาอีกมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)