October 28, 2019 13:34
ตอบโดย
ชัยวัฒน์ จิรานันท์สกุล (หมอเปี๊ยก) (นพ.)
กลูตาไธโอน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยกรดอมิโนที่สำคัญ 3 ชนิดรวมตัวกันอยู่ คือ ซิสเตอิน (Cystein) ไกลซิน (Glycine) และ กลูตาเมท (Glutamate)
1. ยังไม่เคยมีงานวิจัยหรือการศึกษาที่พบว่ากลูต้าไธโอนช่วยในเรื่องแผลในกระเพาะอาหารหรือโรคกระเพาะอาหารได้ครับ
2. ยังไม่มีงานวิจัยและการศึกษาที่ บอกว่ากลูต้าไธโอนมีผลกับโรคความดันโลหิตสูงหรือเบาหวานได้ ว่าจะผลดีหรือผลเสียใดๆ
3. ปริมาณที่เหมาะสมก็ยังไม่มีการศึกษา ที่ระบุได้ชัดเจนเช่นเดียวกันครับ
4. ไม่ว่าในต่างประเทศหรือประเทศไทยยังไม่มีการระบุว่ากลูต้าไธโอนเป็นยารักษาโรคใดๆได้
สรุปว่าข้อมูลเกี่ยวกับกลูต้าไธโอนยังมีไม่มากพอ คงต้องใช้ระยะเวลา อีกสักระยะเวลาหนึ่ง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีคะคุณหมอ ขอความรุ้เรื่องกลูต้านะคะ เล่าให้ฟังก่อนคะ ก่อนหน้านี้ดิฉันเป็นเกี่ยวกับโรคกระเพราะเป็นประจำ ปวดท้อง แสบท้องบ่อยๆ ช่วงหลังมาบังเอิญว่าอยากทานกลูต้า จึงไปซื้อยี่ห้อนีงมาทาน เค้าเครมว่า made in Japan เลยคิดว่าน่าจะปลอดภัย จึงซื้อทาน ผลคือไม่ได้รุ้สึกว่าตัวขาวขึ้นผิดตา แต่ที่รุ้สึกถึงความแตกต่างที่ชัดเจนคือ อาการปวดท้อง แสบท้อง น้อยลง จนแทบไม่แสบเรย ดิฉันทดลองทานพวกของแสลง ที่ทานแล้วจะปวดท้อง แสบท้องทันที ปรากฏว่า มันไม่ปวดแสบท้องแล้วจริงๆ แล้วดิฉันก้อทดลองให้พ่อทานเหมือนกัน พ่อเป็น กรดไหลย้อน กระเพราะอาหาร แบ้วยังมีพวกความดันบ้างเล็กน้อย ทานไปสักระยะแล้ว พาอบอกว่ารู้สึกว่าแสบท้องน้อยลงจริง สบายท้องมากขึ้น จากปกติที่ต้องกินยากรดไหลย้อนเป็นประจำ สิ่งที่ดิฉันอยากถามคือ 1.กลูต้ามีผลช่วยเรื่องแผลในกระเพราะได้จริงใช่ไหมคะ 2. ถ้าพ่อมีโรคปจต เช่นความดัน เบาหวาน พ่อทานกลูต้าจะเป็นอันตรายไหมค่ะ ผลข้างเคียงของกลูต้า จะมีผลต่อโรค ปจต ไหมคะ 3. ปริมานที่เหมาะสมในการรับประทานค่ะ เช่นห้ามทานติดต่อกันเดือน และผลข้างเคียงทใฝเกิดขึ้น 4.ในต่างประเทศมีการวิจัยกลูต้าเป็นยาไหมค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)