June 12, 2018 14:17
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
แม้จะไม่มีข้อบ่งใช้ในการคุมกำเนิด แต่การใช้ยาเลื่อนประจำเดือน ซึ่งจะมีการใช้ก่อนวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาประมาณ 3 - 7 วัน น่าจะผ่านช่วงที่มีไข่ตกมาแล้วค่ะ
ตามปกติ เมื่อไม่มีการฝังตัวที่เยื่อบุมดลูกของไข่ที่ผสมกับอสุจิ โพรงไข่ก็จะหยุดสร้างฮอร์โมน เมื่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดต่ำลงมากจึงเกิดการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูก ทำให้มีประจำเดือนออกมา
ซึ่งยาเลื่อนประจำเดือนก็คือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ การรับประทานยาในช่วงท้าย ๆ ของรอบเดือนถือเป็นการไปเติมระดับยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนยังไม่ลดต่ำลงมาก จึงช่วยยืดระยะเวลาการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกออกไปได้
และเมื่อหยุดรับประทาน 2 - 3 วัน ระดับโปรเจสเตอโรนที่ลดลงมาก ก็จะทำให้มีการหลุดลอกของประจำเดือนตามปกติค่ะ
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีการเลื่อนประจำเดือนอยู่นั้น ก็จะเหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง "วันปลอดภัย" หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" (ในกรณีนี้คือ "หน้า 7") ซึ่งมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่าปกติ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ตั้งครรภ์เลย 100% นะคะ โดยโอกาสตั้งครรภ์ของผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนับวันปลอดภัย คือ 5 - 24% ค่ะ
ส่วนการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ แม้รับประทานเร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ค่ะ (งานวิจัยใหม่ ๆ ชี้ว่าตัวเลขอาจสูงหรือต่ำกว่านี้มาก)
ดังนั้น ถ้าผู้ถามมีประจำเดือนมาตามรอบปกติตรงเวลาสม่ำเสมอ น่าจะมีไข่ตกช่วงกลาง ๆ ของรอบเดือน เมื่อไข่ตกไปนานแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 8 มิ.ย. ก็ไม่น่าจะทำให้ตั้งครรภ์
แต่ถ้าผู้ถามมีความแปรปรวนของฮอร์โมนจากวัย, ความเครียด, การเจ็บป่วย อาจทำให้ไข่ตกคลาดเคลื่อนไปจากวันที่คาดไว้ จึงถือว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะตั้งครรภ์ได้ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็เป็นวิธีป้องกันสำรองที่ดีค่ะ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงให้ต่ำกว่าที่ควรเป็นได้ (แต่จะดีกว่าถ้าใช้ถุงยางอนามัยตั้งแต่แรก เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึม จะมีประสิทธิภาพดีกว่า และไม่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนมากขึ้น)
แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาใน 1 - 3 วันนี้หรือไม่นะคะ จริง ๆ ประจำเดือนน่าจะมาแล้ว แต่การใช้ยาคุมฉุกเฉินซึ่งเป็นโปรเจสเตอโรนเช่นกัน ก็อาจทำให้ระดับฮอร์โมนยังไม่ลดลงต่ำมากจนทำให้เยื่อบุมดลูกหลุดลอกหลังหยุดยาเลื่อนประจำเดือนค่ะ (แต่ก็น่าจะเลื่อนออกไปไม่กี่วัน) ถ้ามีประจำเดือนมาก็คือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ
แต่ถ้ารอนานแล้วประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เนื่องจากเดือนนี้ประจำเดือนจะมาในวันที่ 5 มิถุนายน แต่ดิฉันทานยาเลือนประจำเดือนไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน จนถึงวันที่ 8 มิถุนายน (ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์) วันที่ 5 มิถุนายน มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งภายนอก และมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งวันที่ 8 มิถุนายนไโดยหลั่งใน และได้ทานยาคุมฉุกเฉินชนิด 1 เม็ด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ 2 ชั่วโมง หากจะซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ สามารถตรวจได้วันไหน และมีโอกาสจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ หากมี ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์คะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)