October 19, 2018 05:11
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากคุณมั่นใจว่าเลือดที่ออกมาในเดือนที่แล้วมีลักษณะเหมือนประจำเดือนตามปกติจริงๆก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ เพราะโดยปกติแล้วถ้ามีการตั้งครรภ์เยื่อบุโพรงมดลูกจะต้องเจริญหนาตัวขึ้นเรื่อยๆและไม่หลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน และถ้าหลังจากที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลยหลังจากนั้นก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ
แต่ถ้าหากไม่มั่นใจก็อาจลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อนได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
สาเหตุของการขาดประจำเดือนนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุนอกเหนือจากการตั้งครรภ์ครับ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ถ้าหากประจำเดือนเพิ่งขาดไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ แต่ถ้าประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ หากใช้ไม่ถูกวิธี การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ค่ะ ขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องหรือไม่ กล่าวคือ ไม่ควรนำอวัยวะเพศชายสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงก่อนสวมถุงยางค่ะ เนื่องจากในน้ำหล่อลื่นเพศชาย อาจมีตัวอสุจิปนเปื้อนอยู่ค่ะ และถุงยางอนามัย ต้องไม่รั่ว ไม่ฉีกขาดค่ะ
ถ้าใช้อย่างถูกต้องโอกาสการตั้งครรภ์เหลือเพียงประมาณ2%ค่ะ
ดังนั้น ถ้าคนไข้ใช้อย่างถุกต้อง ถุงยางไม่รั่ว ไม่ขาด โอกาสการตั้งครรภฺ จึงน้อยมากๆ คนไข้สบายใจได้ค่ะ
ดังนั้น หาก คนไข้ไม่แน่ใจ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ค่ะ เพื่อความสบายใจ ผลเชื่อถือได้ เนื่องจาก อาการต่างๆ ล้วนไม่จำเพาะกับการตั้งครรภ์
โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
-ถ้าตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง คใรไปพบแพทยืดพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เหมือนมีชีพจรเต้นอยู่บริเวณเหนือสะดือ จะมีผลทำให้เป็นโรคอะไรไหมค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ตำแหน่งของท้องบริเวณดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่มีหลอดเลือดแดงใหญ่ในร่างกายทอดตัวผ่านครับ ซึ่งอาจคลำพบหลอดเลือดนี้เต้นตามจังหวะชีพจรได้ในคนที่ผอมมากๆหรือในคนที่มีภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง(Abdominal aortic aneurysm)
ในเบื้องต้นนั้นจึงอาจต้องไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการก่อนครับว่าหลอดเลือดดังกล่าวมีการโป่งพองหรือไม่ เพราะถ้าหากมีการโป่งพองก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เมื่อเดือนที่แล้วมี พสพ.กับแฟนแต่ป้องกัน(ใส่ถุงยางอนามัย)หลังจากที่มี พสพ. ปจด.มาปกติ แต่เดือนนี้ ปตด.ยังไม่มา และมีอาการขมคอ จะท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)