August 02, 2019 10:05
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ปกติ ผู้หญิงสามารถมีตกขาวได้ค่ะ โดย ลักษณะของตกขาวปกติ จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของรอบเดือน
โดยช่วงก่อนไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จะมีลักษณะเป็นมูกยืดๆ สีใส
หลังไข่ตก จะเปลี่ยนเป็นลักษณะสีขาวคล้ายแป้ง
อย่างไรก็ตาม ตกขาวปกติ จะไม่ทำให้มีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการอื่น เช่น ปวดท้องน้อย หรือเป็นไข้ ร่วมด้วย
ถ้าตกขาวมีอาการผิดไปจากนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ จะมีลักษณะตกขาวต่างๆ กับไป เช่น
ตกขาว เหมือนแป้ง เป็นก้อน คล้ายคราบนมเด็ก คันมาก เกิดจากเชื้อรา
ตกขาว สีเหลือง กลิ่นเหม็น ปวดท้อง มีไข้ เกิดจาก อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
ตกขาวสีขาว เทา กลิ่นคล้ายปลา เกิดจาก ไม่สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอด
ซึ่งการรักษา จะรักษาตามสาเหตุ
เพราะฉะนั้น ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ
กรณีที่มีการติดเชื้อราที่ช่องคลอดบ่อย
คือ เป็นมากกว่า หรือเท่ากับ 4 ครั้ง ใน 1 ปี
แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อรา ไปกิน กันไว้เลยค่ะ โดย จะต้องกินยาต่อเนื่องกัน เป็นเวลา 6 เดือนค่ะ
อื่นๆ ที่อาจช่วยได้ คือปรับการใช้ชีวิตค่ะ
ใส่กางเกงในที่ผ้าโปรงสบาย ไม่อับชื้น
หลังทำความสะอาดอวัยวะเพศ เช็ดให้แห้งทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการกินยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น เพราะยาไปฆ่าแบคทีเรียที่ดีในช่องคลอด ทำให้เชื้อรา ขึ้นมาแทนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ
จะมีตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ติดอยู่กับผนังช่องคลอดได้ ร่วมกับช่องคลอดเเดง คันช่องคลอด มีปวดเเสบได้
...........
เกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด ใส่กางเกงในเเน่นมีอับชื้น หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้
............
เบื้องต้น ควรไปพบเเพทย์ พิจารณายาเหน็บฆ่าเชื้อ เช่น Clotrimazole ครับ หรือถ้าไม่มีเวลา ปรึกษาคุณเภสัชเบื้องต้นเรื่องยาได้ครับ
งดสวนล้างช่องคลอด งดใส่กางเกงอับชื้นครับ
โดยทั่วไปหลังสอดยา 2-3 วัน อาการจะดีขึ้นครับ
การรักษา เรื่องเชื้อราในช่องคลอดคือ
1.Clotrimazole มีประสิทธิภาพ 85-90 %
- ขนาด 100 mg สอดทางช่องคลอดวันละครั้ง นาน 7 วัน หรือสอดครั้งละ 2 เม็ด นาน 3 วัน
- ขนาด 500 mg สอดทางช่องคลอดครั้งเดียวครับ
หรือ
2.ยารับประทาน
- Ketoconazole รับประทานครั้งละ 200 gm วันละ 2 ครั้ง นาน 5 วัน
- Itraconazole รับประทานครั้งละ 200 mg วันละครั้งนาน 3 วัน หรือ 400 mg ครั้งเดียว
- Fluconazole รับประทาน 150 mg ครั้งเดียว
3.ยาทา : อาจใช้ทางช่องคลอดหรือใช้ทาภายนอกร่วมกับยาสอดในรายที่มีการอักเสบของปากช่องคลอดร่วมด้วย
Clotrimazole 1 % cream ใช้ทางช่องคลอด 5 gm นาน 7-14 วัน
Miconazole 2 % cream ใช้ทางช่องคลอด 5 gm นาน 7 วัน
ถ้าเป็นบ่อยๆไม่หายอาจเกิดได้จาก
- กินยาไม่ครบ เหน็บยาไม่ครบ กินยาไม่ตรงเชื้อ ใส่กางเกงรัดเเน่นอับชื้น มีพฤติกรรมสวนล้างช่องคลอดตลอด
- ติดเชื้อจากคู่นอน แฟนคุณอาจจะมีเชื้ออยู่ เเต่ไม่เเสดงอาการ พอมีเพศสัมพันธ์ก็ติดไปยังคุณ ทางเเก้คือ พาเเฟนไปตรวจด้วยว่าติดเชื้ออะไร เเล้วรักษาทั้งเเฟนคุณเเละตัวคุณด้วยครับ
- คุณมีโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ เช่น เบาหวานเป็นต้นครับ ถ้าคุณมีน้ำหนักมาก มีหิวน้ำบ่อย หิวบ่อย กลางคืนตื่นมาฉี่หลายรอบ เเนะนำให้ลองตรวจเบาหวานครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
คันในช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อปรสิต
- ช่องคลอดอักเสบ
- การแพ้ต่างๆ เช่น แป้ง, สบู่, น้ำยาสวนล้างช่องคลอด เป็นต้น
ถ้าคันและมีตกขาว เป็นก้อนเปียก กลิ่นคล้ายนมบูด อวัยวะเพศอาจบวมแดง น่าจะเป็นจากติดเชื้อราครับ การรักษาจะมีให้เลือกทั้งยาเหน็บ และยารับประทานครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูติแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องครับ
การปฏิบัติตัวเบื้องต้นแนะนำ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ และลองเปลี่ยนสบู่ หรือแป้งที่ใช้ ดูครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการคันปากช่องคลอดทำยังไงถึงจะหายขาดค่ะ ทำไมถึงกลับมาเป็นทุก2-3เดือน ตกจาวเป็นก้อน สีขาวไม่มีกลิ่น บางครั้งสีเหบืองมีกลิ่นเปรี้ยว ติดกับแผ่นอนามัย เคยไปหาหมอหมอให้กินโยเกริต ที่มี โปรไบโอติก แต่ก็ยังไม่หายขาด ยังคงกลับมาเป็นอีก ไม่ได้คันข้างใน แต่คันเฉพาะตรงปากช่องคลอดอยากหายขาดพอมีวิธีมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)