May 02, 2019 19:21
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
การเนิ่มยาคุมกำเนิดชนิดรายเดือนที่ถูกต้องนั้น ให้เริ่มภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาจะออกฤทธิ์คุมกำเนิดทันทีค่ะ
>> หรือหากต้องการเริ่มหลังวันที่มีประจำเดือน ก็สามารถทำได้ค่ะ โดยต้องทานติดต่อกันอย่างน้อย 7 เม็ด (7วัน) จึงจะเริ่มออกฤทธิ์คุมกำเนิดค่ะ
กรณีของผู้ถาม ไม่จำเป็นต้องรอให้มีเลือดออกกระปิดกนะปอยจากยาคุมฉุกเฉิน ก็สามารถเริ่มทานยาคุมชนิดรายเดือนได้เลยค่ะ โดยควรทานต่อเนื่องอย่างน้อย 7 เม็ด จึงจะเริ่มคุมกำเนิดค่ะ
การทานยาคุมกำเนิดรายเดือน อย่างตรงเวลา สม่ำเสมอ มีโอกาสผิดพลาดได้ 0.3%ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมนะคะ
ในกรณีที่ผู้ถามยังไม่ได้เริ่มใช้ยาคุมรายเดือนเลย การเริ่มใช้ครั้งแรกควรให้มั่นใจก่อนว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อยู่ค่ะ โดยปกติจึงแนะนำให้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนนั่นเอง
หรือถ้าใช้ไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว ก็ควรใช้ในกรณีที่นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนในรอบล่าสุดมาจนถึงวันที่จะเริ่มใช้ยาคุมรายเดือน ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลยนะคะ ซึ่งจะต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ
แต่ในกรณีของผู้ถามซึ่งให้ข้อมูลว่า "ถ้ากินยาคุมฉุกเฉินและมีผลข้างเคียงเลือดออก" บ่งชี้ว่าน่าจะมีเพศสัมพันธ์ที่อาจไม่ป้องกันหรือป้องกันแล้วเกิดความผิดพลาดมาแล้ว จึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นะคะ เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงนัก แม้ใช้ครบขนาดและทันเวลาแต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25%
และการที่มีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานยา ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ จึงควรรอให้ประจำเดือนมาก่อนจึงค่อยเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนนะคะ
โดยหากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ซึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ
เมื่อประจำเดือนมาแล้ว หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วค่ะ และหากผู้ถามต้องการจะคุมกำเนิดต่อไปข้างหน้า เช่น คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ ก็ให้เริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ
..
..
..
สรุปก็คือ ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ยังบอกไม่ได้ว่าจะไม่ตั้งครรภ์ค่ะ และการใช้ยาคุมรายเดือนในตอนนี้ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้น้อยลง แถมยังทำให้ประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปมากขึ้น จึงยังไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมรายเดือนนะคะ แต่ควรรอให้ประจำเดือนมาก่อนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะคือตอนมีพสพไม่ได้ป้องกันแต่หลั่นนอกทำแปปเดียวเพราะกลัวท้องตอนมีพสพประจำเดือนพึ่งหมดดีตอนนี้กินยาคุมมา6วันละมีเลือดออกแบบเยอะเหมือนเป็นประจำเดือนนี้คือผลข้างเคียงหรือเป็นประจำเดือนคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะคือตอนมีพสพไม่ได้ป้องกันแต่หลั่นนอกทำแปปเดียวเพราะกลัวท้องตอนมีพสพประจำเดือนพึ่งหมดดีตอนนี้กินยาคุมมา6วันละมีเลือดออกแบบเยอะเหมือนเป็นประจำเดือนนี้คือผลข้างเคียงหรือเป็นประจำเดือนคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. หากมีการสอดใส่โดยไม่ได้ใช้ถุงยาง แม้จะไม่นาน และป้องกันด้วยการหลั่งนอก ก็ยังถือว่าเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูงกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานหลายเท่าค่ะ
2. โดยปกติ ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินอาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ แต่จะเป็นลักษณะของเลือดกะปริบกะปรอยค่ะ ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย
และหากไม่ตั้งครรภ์ประจำเดือนของผู้ใช้ก็ควรจะมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ
ดังนั้น ถ้าเลือดที่ออกมามีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย โดยมาห่างจากรอบประจำเดือนเดิมไม่นาน (ในกรณีของผู้ถามน่าจะไม่เกิน 2 สัปดาห์นับจากวันแรกของประจำเดือนในรอบล่าสุด) ทั้งที่ผู้ถามไม่เคยมีประวัติว่ามีประจำเดือนมาเร็วเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ ก็ถือว่าผิดปกติค่ะ และเสี่ยงที่จะเสียเลือดมากจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพ จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
แต่ถ้าเลือดนั้นเป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย เช่น อาจใช้เพียงแค่แผ่นอนามัยอย่างแคร์ฟรีก็เพียงพอแล้ว และไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง) ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอบคุณค่ะอยากทราบว่าคนอื่นเป็นแบบนี้ส่วนไหญ่ท้องมั้ยคะ5555
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, เจ็บคัดตึงเต้านม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับการตั้งครรภ์ค่ะ จึงนำมาใช้คาดการณ์ไม่ได้ว่าเมื่อพบหรือไม่พบอาการดังกล่าวแล้วจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์
แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ หรือรอตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดิ์ดีค่ะอยากสอบถามว่าถ้ากินยาคุมฉุกเฉินละมีผลข้างเคียงเลือดออกเราสามารถทานยาคุมรายเดือนวันที่เลือดออกเพราะยาคุมฉุกเฉินได้มั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)