สอบถามค่ะคุณหมอ คือวันที่ 31 มีนาที่ผ่านมา มี พสพ.กับแฟน (ครั้งแรก) แฟนใ่ส่ถุงยางอนามัย ผ่านไป 1 ชม. พบว่ามีเลือดออกดีคล้ำๆ คล้ายเลือดประจำเดือนที่ใกล้หมด ตอนนี้ 3 วันแล้วค่ะ เวลาปัสสาวะ แล้วเอาทิชชู่ซับ ยังมีเลือดออกมาอยู่เลย ไม่ทราบว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงมั้ยคะ

สวัสดีครับ
การมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์นั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์
- เป็นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนมีประจำเดือน
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีการอักเสบติดเชื้อของช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

หมอแนะนำว่าในกรณีที่มีเลือดออกผิดปกติติดต่อกันมาหลายวันแล้วก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

ถ้าหากถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วก็มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้สูงครับ

แต่ถ้าหากสามารถใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องโดยไม่มีการแตกรั่วโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 2%

ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ