July 23, 2019 15:39
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ การฝังยาคุมกำเนิดสามารถหลั่งในได้ค่ะ เพราะเป็นการคุมกำเนิดที่ดีที่สุดในปัจจุบัน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.05% ส่วนการหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ซึ่งถ้าคุมด้วยสองวิธีจะทำให้โอกาสตั้งครรภ์น้อยมากค่ะ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ เพราะการทานยาคุมฉุกเฉินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้จากปริมาณฮอร์โมนที่มีมาก เช่น เวียนศรีษะ คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม เลือดออกกะปริบกะปรอย ประจำเดือนผิดปกติ เป็นต้น อย่างไรก็ตามสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้หลังมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าฝังยาเริ่มได้ถูกต้อง ยังไม่หมดอายุ ก็ไม่ท้องครับผม เเละไม่จำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินครับ
ยาฝังคุมกำเนิด
...........
ฝังหนึ่งครั้งได้3-5ปี คุมกำเนิดได้ดีมาก เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ ราคาค่อนข้างสูง เเต่สาธารณสุขจะมีโครงการฝังฟรีครับถ้าอายุน้อยกว่า20ปี เวลาฝังอาจเจ็บได้ ต้องมาเอาออกเวลาครบกำหนด
ปกติฝังยาภายใน 5 วันแรกของประจำเดือน และแนะนำให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยก่อนใน 7 วันแรกหลังการฝังยา เช่น ใส่ถุงยางอนามัย หรืองดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนครับ ถ้าฝังตามนี้ ก็ไม่น่าท้องเลยครับ
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยในการฝังยา เช่น
............
- ประจำเดือนผิดปกติ ในช่วง 3 เดือนแรกประจำเดือนอาจมาไม่สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะมาน้อยลงและห่างออกจนถึงอาจไม่มีรอบเดือนเลย บางคนรอบเดือนมามากขึ้น มาทุกวันหรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง เเละไม่ได้อันตรายครับ แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นสามารถพิจารณารักษาโดยการให้เอสโตรเจนเสริมในช่วงสั้นๆ เช่น Diane35 กิน 7-10 วัน
............
- อารมณ์แปรปรวน อาจมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ค่อนข้างบ่อยกว่าเมื่อเทียบกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น
- ภาวะแทรกซ้อนในตำแหน่งที่ฝังยา เช่น ติดเชื้อ, ระคายเคืองตรงตำแหน่งที่ฝังยา, หลอดยาหลุด หรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ฝัง, เกิดพังพืดยึดติด, หลอดยาขาดออกทำให้เอาออกยาก เป็นต้น
อาการอื่นๆ ที่พบได้น้อย เช่น ปวดศีรษะ, ปวดท้องน้อยและปวดประจำเดือน, เป็นสิว เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้ามีการฝังยาคุมกำเนิดอยู่แล้วโดยที่ได้เริ่มฝังยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนหรือได้ฝังยาคุมมาเกิน 7 วันแล้วโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีได้เพียง 0.05% เท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
จากเหตุการณ์ตามที่เล่ามานี้จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์และในครั้งต่อไปที่มีเพศสัมพันธ์ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินอีกเนื่องจากจะเป็นการทำให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินโดยไม่จำเป็นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คุณหมอครับ ผมมีอะไรกับแฟนแล้ว ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย แล้วหลั่งนอก แต่แฟนผมฝั่งยาคุมกำเนิด ละก็กินยาคุมฉุกเฉินด้วย มีโอกาสท้องไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)