>ผลตรวจอัลตราซาวนด์ (ULTRASOUND) แสดงอัตราการเต้นหัวใจที่ค่อนข้างช้าของทารกในครรภ์ช่วงไตรมาสแรก
ความเสี่ยงของการแท้งบุตรในกรณีที่มีทารกในครรภ์มีอัตราการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างช้าในช่วงไตรมาสแรก อัตราการเต้นหัวใจของทารกควรจะเริ่มต้นประมาณ 100 ครั้งต่อนาที (Beats per minute(BPM)) ในสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ (เวลาที่ควรตรวจอัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ครั้งแรก) การเต้นของหัวใจสูงสุดที่สัปดาห์ที่ 9 (อาจสูงถึง 180 ครั้งต่อนาที) และค่อยๆลดลงเมื่อทารกในครรภ์เติบโตขึ้น
หากผลตรวจอัลตราซาวนด์ (ULTRASOUND )แสดงอัตราการเต้นหัวใจที่ค่อนข้างช้าของทารกในครรภ์ช่วงไตรมาสแรก คุณแม่อาจจะเกิดการเสี่ยงกับภาวะแท้งบุตรไหม?
เมื่อพบอัตราการเต้นของหัวใจช้ากว่าที่คาด แพทย์อาจต้องหาสาเหตุและควรแนะนำให้ทำอัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ซ้ำเพื่อติดตามพัฒนาการของทารก อัตราการเต้นหัวใจที่ค่อนข้างช้าเป็นสาเหตุที่ควรกังวลเพราะมีการศึกษาแสดงถึงการเพิ่มโอกาสเสี่ยงของภาวะแท้งบุตรเมื่อทารกมีอัตราการเต้นหัวใจน้อยกว่า 100 ครั้งต่อนาทีที่ 6.2 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์หรือน้อยกว่า 120 ครั้งต่อนาทีที่ 6.3-7 สัปดาห์
อย่ารอสุขภาพดี! คุณเริ่มได้วันนี้ แค่คลิก
เลือกดูสินค้าและบริการสุขภาพดีๆที่เราคัดมาให้ที่ Health Shop

หากผลตรวจอัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)แสดงว่าลูกน้อยของคุณมีอัตราการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างช้า คุณอาจจะกลัวและกังวล ยิ่งถ้าคุณได้ค้นหาข้อมูลด้านนี้มากๆ คุณอาจจะรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องรออีกสัปดาห์เพื่อตรวจซ้ำ แต่ไม่มีวิธีอื่นที่จะบ่งชี้สิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรอ บางครั้งอัตราการเต้นหัวใจของทารกอาจจะปกติและการตั้งครรภ์ยังดำเนินต่อโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่หากผลที่ได้เป็นอย่างอื่น คุณหรือแพทย์ของคุณไม่สามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนผลสุดท้าย ภาวะแท้งบุตรหลังการตรวจพบอัตราการเต้นของหัวใจทารกที่ค่อนข้างช้า มักเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมขณะเกิดการปฎิสนธิ
ประโยชน์ของการทำอัลตราซาวนด์ (ULTRASOUND)ในระหว่างตั้งครรภ์คืออะไร?
ในระหว่างตั้งครรภ์ อัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ถูกนำมาใช้ด้วยเหตุผลหลายประการดังต่อไปนี้
- หาอายุของทารกในครรภ์
- การตรวจเช็คจำนวนโครโมโซมว่ามากกว่าหรือน้อยกว่าปกติหรือไม่เรียกว่า aneuploidy chromosome assessment
- การประเมินความยาวปากมดลูก
- ประเมินความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ (รายละเอียดด้านชีวฟิสิกส์) (biophysical profile)
- การประเมินทางกายวิภาค (anatomical assessment)
ในช่วงสัปดาห์ที่ 13 ถึง 18 ของการตั้งครรภ์ สามารถประเมินอายุของทารกในครรภ์โดยใช้อัลตราซาวนด์ (ULTRASOUND) จากข้อมูลต่อไปนี้
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกระโหลก( Biparietal diameter)
- ความยาวรอบศีรษะ (head circumference)
- เส้นรอบวงท้อง (abdominal circumference)
- ความยาวของกระดูก (femur length)
ความถูกต้องของการนับอายุ จะบวกหรือลบ 7 วัน(หนึ่งสัปดาห์) ในสัปดาห์ที่ 24 ความถูกต้องโดยใช้อัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ประเมินอายุจะลดลง การใช้อัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ประเมินน้ำหนักและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์จะได้ผลถูกต้องที่สุด สามารถใช้อัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภได้ประมาณสัปดาห์ที่ 10 ในสัปดาห์ที่ 18 และ 20จะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจทารกโดยใช้วิธ๊ส่องกล้อง (fetoscope) อัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)เป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดเพื่อตรวจสอบการมีชีวิตของทารกในครรภ์ เป็นเรื่องเศร้าถ้ายังตรวจเจอทารกในครรภ์แต่ไม่พบการเต้นของหัวใจหมายถึงทารกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการเต้นของหัวใจที่แสดงผลจากอัลตราซาวนด์ (ULTRASOUND) ไม่ชัดเจน?
ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ การเต้นของหัวใจ ยังไม่ชัดเจนว่ามีอยู่หรือไม่ จะต้องทำการทดสอบต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าทารกยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงการตรวจระดับฮอร์โมนในภาวะตั้งครรภ์ Beta Human Chrorionic Gonardotropin(HCG)ด้วย
การเสียชีวิตของทารกในครรภ์ช่วงท้องแก่
ในช่วงตั้งครรภ์ สัญญาณแรกของการเสียชีวิตของทารกในครรภ์คือไม่มีการเคลื่อนไหว ควรใช้อัลตราซาวนด์(ULTRASOUND)ตรวจหาเสียงหัวใจของทารกในครรภ์และหาเหตุผลที่ทารกไม่เคลื่อนไหว