July 14, 2018 22:01
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นมีสาเหตุได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีการอักเสบติดเชื้อของปากมดลูกหรืออุ้งเชิงกราน
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้นซึ่งเป็นภาวะปกติในผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีติ่งเนื้อ หรือเนื้องอกที่ปากมดลูก
- มีเนื้องอกในมดลูก
เป็นต้น
ถ้าหากอาการเลือดออกมีปริมาณมาก หยุดยาก แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุครับ
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้น ไม่ว่าหลังมีเพศสัมพันธ์จะมีเลือดออกหรือไม่ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ
ดังนั้นถ้าต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ในขณะนี้ก็ต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ โดยแนะนำให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% ครับ แต่ถ้าเลยเวลา 72 ชั่วโมงไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงได้ แต่ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินก็จะลดลงตามเวลาที่ผ่านไป
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อยากสอบถามว่ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนไม่ได้ป้องกันโดยหลั่งในในคืนนั้นมีเลือดลิ่มออกมานิดนึงพอเช้ามาของอีกวันเลือดออกมาคล้ายประจำเดือนเยอะมากซึ่งรอบเดือนที่มาล่าสุดคือวันที่ 31-5 ก.ค วันนี้วันที่14 ประจำเดือนมาอีกอย่างนี้จะท้องไมค่ะต้องกินยาคุมฉุกเฉินไมค่ะขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)