May 13, 2018 16:45
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ สาเหตุของภาวะประจำเดือนผิดปกติแบ่งได้ 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ ประจำเดือนผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากการมีโรคอยู่ภายใน เช่น พวกเนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ เป็นต้น และประจำเดือนผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากการทำงานของระบบฮอร์โมนเพศที่ผิดปกติหรือไม่สมดุล ปริมาณและระยะห่างของรอบประจำเดือนจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล มีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนประมาณ 28 ± 7 วัน และระยะเวลาที่มีประจำเดือนจะอยู่ในช่วง 4 ± 2 วัน
ในกรณีของผู้ป่วย จำเป็นต้องหาสาเหตุก่อนค่ะว่าเพราะอะไรประจำเดือนจึงมาไม่ปกติ และรักษาไปตามสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งโดยส่วนใหญ่หากอายุน้อย ก็มักเป็นจากปัญหาไข่ไม่ตก หรือตกไม่สม่ำเสมอ ทำให้ฮอร์โมนเพศที่สร้างจากรังไข่นั้นผิดปกติไป ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกตินั่นเอง หรือหากมีประวัติการใช้ยาคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบฉีดหรือรับประทานมานาน ๆ ก็อาจทำให้ประเดือนมาไม่ปกติได้เช่นเดียวกันค่ะ แต่ในกรณีนี้คุณให้ประวัติว่ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนหากไม่ได้ป้องกันก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ ทั้งนี้แนะนำควรพบแพทย์เพื่อซักถามประวัติเพิ่มเติม ตรวจร่างกาย เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
คำถามนี้หมอขอตอบแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
1. มีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่
ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกับว่ามีการป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ครับ
กรณีที่มีการป้องกัน เช่น ใส่ถุงยางอนามัย กินยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุม แบบนี้โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยครับ
แต่ถ้าไม่ได้คุมกำเนิด ใช้วิธีหลั่งนอก หรือนับวันตกไข่ แบบนี้มีโอกาสตั้งครรภ์สูงครับ
อย่างไรก็ตามไม่มีวิธีการคุมกำเนิดวิธีใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%ครับ
ดังนั้นควรมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการขาดประจำเดือน 1-2 เดือน คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูครับ
2. อาการเลือดออก
หมอไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงเลือดออกในช่วงเวลาไหนนะครับ
- ถ้าคุณหมายถึงอาการเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกทันที อาจเกิดจากเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดได้ ครับ ซึ่งหากเป็นจากสาเหตุนี้เลือดมักจะหยุดได้เองใน 1-2 วัน
แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีเลือดออกมากๆ หยุดยากอาจเกิดจากการบาดเจ็บของส่วนอื่น เช่น ปากมดลูก หรือมีรอยโรคเดิมอยู่ภายในอยู่แล้ว ทำให้เลือดดออกได้ง่าย ถ้าเป็นแแบนี้ควรไปพบแพทย์ครับ
- แต่ถ้ามีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 2 เดือน อาจเป็นเลือดประจำเดือนตามปกติ หรือมีการตั้งครรภ์ไปแล้ว แต่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การแท้ง ก็ได้ครับ กรณีนี้แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นโรคเลือกจางไม่มีประจำเดือนมาสองสามเดือนละค่า ละมีไรกะแฟนครั้งแรก มีเลือกไหลออกมาจากช่องคลอด มีโอกาสท้องไมค่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)