คุณหมอค่ะมีประจำเดือนล่าสุดวันที่ 24/05 -30/05 แล้วมีเพศสัมพัธ์วันที่ 2/06แล้วรู้สึกว่าใีน้ำของฝ่ายชายเข้าไปเลยกินยาคุมฉุกเฉินไปภายในครึ่งชม.ค่ะ หลังจากนั้น5 วันมีเลือดออกมาเยอะมากเป็นสีแดงสดและมีลิ่มเลือดด้วยค่ะประมาณ3วันค่ะ อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์เยอะไหมค่ะ ปกติแล้วไข่จะตกหลังประจำเดือนหมดเลยไหมค่ะ แล้วพอทานยาคุมฉุกเฉินเข้าไปรู้สึกท้องบวมๆเกร็งๆตรงท้องน้อยค่ะ ไม่ทราบว่าจะเป็นอะไรไหมค่ะ

ปกติแล้วการทานยาคุมฉุกเฉิน ควรทานให้เร็วที่สุดภายหลังมีเพศสัมพันธ์เม็ดแรกแรก ภายใน 72 ชั่วโมง และ เม็ดที่เหลืออีก 12 ชั่วโมงถัดไปค่ะ
หรือทานพร้อมกันทั้งสองเม็ดภายในครั้งเดียวก็ได้ค่ะ โอกาสตั้งครรภ์จะมีน้อยมากถ้าหากทานถูกต้องครบถ้วนทานเม็ดแรกหรือทั้งสองเม็ดภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95%
รับประทานเร็วที่สุดก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น

หลังทานยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้แต่อาเจียนเล็กน้อย ปวดท้อง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เจ็บเต้านม และอาจจะมีเลือดออกจากช่องคลอดหลังทานยา 1 สัปดาห์คล้ายกับประจำเดือนแต่ไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ. ส่วนประจำเดือนจริงๆนั้นอาจจะมาใกล้เคียงรอบเดิม แต่หากช้าเกิน 3 สัปดาห์ควรตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ

ถ้าเป็นเจาะเลือดดูระดับฮอร์โมน HCG สามารถตรวจได้หลังจาก 1 สัปดาห์หลังไข่ตกและมีการปฏิสนธิค่ะ
ถ้าเป็นแบบทดสอบเองสามารถทดสอบการตั้งครรภ์ได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วันค่ะเพราะหากตรวจก่อนระดับของฮอร์โมนจะยังไม่ขึ้นการตรวจจะไม่พบได้ค่ะ แต่บางยี่ห้อก็สามารถตรวจได้ภายใน1สัปดาห์แต่ความแม่นยยำอาจจะไม่มาก แนะนำตรวจในช่วงเช้าหลังตื่นนอนจะเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนของการตั้งครรภ์สูงสุดค่ะ
ถ้าหากขึ้นขีดเดียว แนะนำให้ตรวจซ้ำ เว้นระยะห่างจากการตรวจครั้งแรกอย่างน้อย 2-3 วันค่ะ

ถ้ามีเพศสัมพันธ์วันที่ 2
14วันหลังมีเพศสัมพันธ์คือวันที่16ค่ะ หากตรวจแล้วพบ 1 ขีดอาจจะไม่ตั้งครรภ์หรือเกิดจากปัสสาวะเจือจางไป ชุดทดสอบเสื่อมคุณภาพ ตรวจเร็วเกินไป ทานยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ
แนะนำให้ตรวจซ้ำอีก2-3วันค่ะหรือ 1 อาทิตย์
ความแม่นยำของที่ตรวจครรภ์ของหลายยี่ห้อส่วนใหญ่จะอยู่ที่98-99%
แต่ก็มีปัจจัยที่ทำให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนได้ดังที่กล่าวไปข้างต้น

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ

อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น

ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่

และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ อืดแน่นท้อง

ถ้าอยากเจาะเลือด ดูฮอร์โมนBHCG ในเลือด มีเพศสัมพันธ์วันที่ 2/06 วันที่ 15 สามารถตรวจดูได้แล้วค่ะ

ปกติจะเริ่ม มีระดับฮอร์โมนในเลือดตอนตัวอ่อนฝังตัว สร้างรก คือ ตอนตัวอ่อน อายุ 8-9 วันค่ะ แต่เนื่องจากระดับฮอร์โมนในเลือดยังต่ำมาก ความแม่นยำอาจจะไม่เท่าที่ตรวจหลังจากนั้นค่ะ

ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ. ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องอืด หน่วงๆตึงๆที่ท้องน้อยแบบนี้ได้ค่ะ

ถ้าตั้งครรภ์ระยะแรก อายุครรภ์ยังไม่เกิน 8-12 สัปดาห์ มดลูกจะยังอยู่ในอุ้งเชิงกรานค่ะ ไม่สามารถคลำได้จากหน้าท้องค่ะ แต่มดลูกเริ่มขยายตัวแล้ว อาจจะมีอาการปัสสาวะบ่อยมาก่อนได้ค่ะ เพราะมดลูกและกระเพาะปัสสาวะอยู่ชิดกัน